ทิศทางเศรษฐกิจไทย ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19รอบใหม่ในประเทศไทยในปี2564เรียกได้ว่ามันเป็นความหวังของเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยเฉพาะคนที่ค้าขายตัวเล็กๆ
ซึ่งก็ตั้งใจแล้วว่าจะเริ่มลืมตาอ้าปากสักทีนึงประธานกิตติมศักดิ์ของไทยก็ได้เล่าว่าที่ผ่านมาไม่ค่อนได้ลงทุนใหม่จะเน้นขายของที่ได้มีอยู่ภายในคลังสินค้าแล้วก็ตั้งใจว่าจะเริ่มลงทุนในปีหน้าแต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19รอบใหม่ก็ทำให้ไม่มั่นใจในทิสทางของเศรษฐกิจรวมถึงภาระหนี้ที่อาจจะเพิ่มขึ้นด้วยทั้งที่กลุ่มsmeก็ยังไม่สามารถที่จะฟื้นตัวกลับมาได้
เพราะฉะนั้นในตอนนี้เองก็ได้เริ่มมีโอกาสอาจจะเก็บสะสมลดดอกเบี้ยเอาไว้แล้วก็ค้าขายเพียงแต่ยังไม่ต้องไปจ่ายเพราะถ้าหากว่าไปจ่ายก็อาจจะทำให้ติดลบทีนี้ก็กำลังดูกันอยู่ว่าถ้าปีหน้าถ้าเกิดว่ายังขายอะไรไม่ได้ดีอีกเราเอาเงินก้อนที่เก็บไปใช้จ่ายไปได้อีกกี่เดือนเพราะว่ารัฐบาลเองก็อาจจะไม่ได้ยืดอายุผ่อนผันพักชำระหนี้
นอกจากนี้โดยประชาชนทั่วไปมองว่าทิศทางของเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่ว่าจะแย่ลงขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของโควิด-19เป็นหลักและถ้าหากว่าเศรษฐกิจในปีหน้าถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ก็ค่อนข้างที่จะตระกุกตระกักนิดหน่อยและคิดว่ามันน่าจะดีขึ้นถ้าโรคระบาดลดลง
ซึ่งไม่กี่วันที่ผ่านมาคณะคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาได้มีการประเมิลทิศทางของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าคาดว่าน่าจะฟื้นตัวอยู่ที่ร้อยละ3.5-4.5มาจากการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นการส่งออกที่ได้ขยายตามภาวะเศรษฐกิจโลกรวมไปถึงการใช้จ่ายการลงทุนของภาครัฐ
โดยจะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนแล้วก็กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศความเห็นดังกล่าวก็ไปสอดคล้องกับผู้บริหารการวิจัยและหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจธนาคารกรุงศรีอยุธยาเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นนัยของการทำนโยบายที่จะเป็นเรื่องทรัพย์พอตมีความจำเป็นน้อยลงนัยในระดับถัดไปจะเป็นเรื่องของการกระตุ้น
เพราะว่ายังได้มีคนกลุ่มหนึ่งแล้วคนที่มีกำลังซื้อจะโตเร็วรายได้เขาโตเร็วพวกนี้เอาเงินมาช่วยรัฐในการหมุนหน่อยและถ้าจะให้เดามันเรื่องเกี่ยวกับกระตุ้นกลุ่มที่มีรายได้สูงเยอะขึ้นรวมถึงบริษัทห้างร้านเดี๋ยวมันก็จะเริ่มมีแล้วเราเห็นแล้ว่าการลงทุนมันเริ่มมาแล้วดีไม่ดีอาจจะมีการกระตุ้นในเรื่องของการลงทุนทั้งนี้วิจัยกรุงศรีมีการประเมิลGDPในปีหน้าจะมีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ3.3จะกลับมาเป็นบวกก็คือไตรมาสที่2ของปีหน้า
สนับสนุนโดย. ufabet สมัครยังไง
