รถไฟ จีน-ลาว ได้เปรียบคาร์บอนเครดิต

 

รถไฟ จีน-ลาว เดือนมกราคม 2560 5 เป็นจุดเปลี่ยนของผู้ส่งออกสินค้าจากไทยและกลุ่ม CL NV ที่มีตลาดในสหภาพยุโรปถ้าผู้ส่งออกใช้เส้นทางรถไฟจีนลาว เพราะการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางรถไฟสายนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำของ สปปลาว 

ซึ่งจะมีค่าของคาร์บอนเครดิตสูงกว่าใช้เส้นทางรถยนต์และทางเรือเรื่องนี้ทำให้นักลงทุนจักรีนเคลื่อนย้ายโรงงานมาตั้งในนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวในประเทศไทยและ สปปลาว มากขึ้นโดยหวังจะใช้สิทธิ์คาร์บอนเครดิตจากนิคมและทางรถไฟ

โดยเบื้องต้นเน้นการเข้ามาประกอบสินค้าและส่งออกไปยังยุโรปอีกทอดหนึ่งคาร์บอนเครดิตสำคัญมากสำหรับสินค้าที่มีวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะมาตรฐาน EU ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของอาเซียนอีกแห่ง1 ทำให้ผู้ผลิตต้องแสวงหาคาร์บอนเครดิตเข้ามาชดเชย 

ซึ่งได้คะแนนคาร์บอนเครดิตมาจากหลายทางเช่นการใช้พลังงานทางเลือกใช้พลังงานจากฟอสซิลเช่นน้ำมัน ในการผลิตกระแสไฟฟ้าทางการผลิตสินค้าและขนส่งสินค้า ทำให้การขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานน้ำในสปปลาวมีคาร์บอนเครดิตสูงตามที่นักลงทุนต้องการ 

การจัดการของเสียได้อย่างเหมาะสมและไม่ปล่อยก๊าซมีเทนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ผู้ผลิตจำเป็นจะต้องเลือกผลิตสินค้าในโรงงานสีเขียวเช่นนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีหรือนิคมอุตสาหกรรมในฝั่งสปปลาว 

หากเทียบข้อได้เปรียบการตั้งโรงงานใน 3 พื้นที่คือประเทศไทยสปปลาวและเวียดนาม กลุ่มสินค้าที่ไม่เน้นส่งออกไปตามตลาดยุโรปที่ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ลดคาร์บอนอาจจะได้เปรียบกว่าเวียดนามขณะที่ตั้งโรงงานในสปปลาวจะได้เปรียบเรื่องการอยู่ในพื้นที่ขนส่งทางรางเข้าไปจีนและยุโรปได้โดยตรง

แต่ไทยก็จะได้เปรียบเรื่องคาร์บอนเครดิตซึ่งเป็นการผลิตที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมในอนาคต คาร์บอนเครดิตมีความสำคัญกับผู้ส่งออกในภูมิภาคนี้เพราะคณะกรรมาธิการยุโรปเสนอร่างกฎหมายกลไกการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน 

เพื่อกำหนดราคาคาร์บอนสำหรับสินค้าขาเข้ายุโรปมาตรการคาร์บอนของยุโรปส่งผลต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นคณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้ใช้กลไกปรับคาร์บอนกับสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงต่อการรั่วไหลของคาร์บอน ได้แก่เหล็กและเหล็กกล้าซีเมนต์ปุ๋ยอลูมิเนียมและกระแสไฟฟ้า

โดยจะเริ่มทดลองใช้ในปี 2566 ดังนั้นผู้นำเข้าสินค้าต้องรายงานปริมาณการปล่อยคาร์บอนของสินค้าโดยไม่ต้องชำระราคาคาร์บอนและเมื่อระบบพร้อมใช้งานในปี 2569 ผู้นำเข้าต้องรายงานปริมาณสินค้าและปริมาณคาร์บอนในสินค้าที่นำเข้ามาในปีที่ผ่านมาและต้องซื้อใบอนุญาตกลไกการปรับคาร์บอน 

ซึ่งการกำหนดราคาคาร์บอนเท่ากับราคาที่ผู้นำเข้าจะต้องชำระ หาผู้ผลิตนอกยุโรปแสดงหลักฐานว่าได้ชำระราคาคาร์บอนแล้วในประเทศที่ 3 ราคาที่ชำระไปสามารถนำหักลบกบราคาที่ผู้นำเข้าจะต้องชำระได้

 

สนับสนุนโดย.    Ufabet เข้าสู่ระบบ