ธปท. ช่วยเหลือลูกหนี้ช่วง covid ด้วยการเพิ่มมาตรการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต 5 เปอร์เซ็นต์ จนถึงสิ้นปี 65 

         ธปท. ช่วยเหลือลูกหนี้ช่วง covid ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด ไม่สามารถพ้นวิกฤตในช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยการเสริมสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ซึ่งเป็นลูกหนี้ในกลุ่มบริษัท sme รวมถึงกลุ่มลูกหนี้รายย่อยต่างๆโดยมาตรการที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาช่วยเหลือนั่น

ก็คือมาตรการที่จะให้ลูกหนี้ได้มีการจ่ายหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำเพียงแค่ 5% เท่านั้นด้วยระยะเวลาในการช่วยเหลือในครั้งนี้นั้นจะยาวนานไปจนถึงสิ้นปีพ.ศ. 2565 เลยทีเดียว 

       เมื่อวันที่ 20 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564 ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ของประเทศไทยว่ายังคงมีการระบาดของไวรัสโควิช- อย่างต่อเนื่องและสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเนื่องจากว่าไวรัส covid ได้มีการกลายผ่านสิ่งที่มีผลกระทบตามมาต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก

     ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ธนาคารเองเชื่อว่าในขณะนี้การแก้ไขปัญหาภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นอาจจะยังไม่สามารถแก้ไขให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาอันใกล้นี้เชื่อว่าธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศไทยจะค่อนข้างฟื้นตัวได้ช้าอย่างแน่นอนเพราะสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหนก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเรื่องของการท่องเที่ยวโดยในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าประชาชนนั้นถูกเลิกจ้างงานอย่างต่อเนื่องและประชาชนนั้นมีหนี้สินครัวเรือนที่ค้างนี่เป็นจำนวนมาก

      ดังนั้นทางด้านการธนาคารแห่งประเทศไทยจึงอยากช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในช่วงวิกฤตของการระบาดของไวรัสโควิตในช่วงนี้จึงได้มีการเสนอมาตรการออกมาช่วยเหลือลูกหนี้ของทางธนาคารโดยนโยบายที่มีการออกมานั้นก็คือจะช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้แนว SME รวมถึงลูกหนี้รายย่อยเป็นการช่วยเหลือที่จะสามารถทำให้เจ้าของธุรกิจ sme สามารถยังคงดำเนินการทำธุรกิจหาเลี้ยงชีพตนเองต่อไปได้เป็นการรักษาสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ SME นั่นเอง

    ซึ่งทางธนาคารได้มีการอนุมัติและว่าจะเข้ามาช่วยเหลือผ่อนปัญหาของลูกหนี้ sme ด้วยการออกมาตรการสำหรับลูกหนี้ให้สามารถทำการออกสินเชื่อในราคาดอกเบี้ยต่ำแล้วถ้าหาก sme  มีปัญหาด้านการเงินก็พร้อมที่จะมีการแบ่งเบาภาระปัญหาดังกล่าว ซึ่งอาจจะรวมถึงการขยายวงเงินสินเชื่อ

    นอกจากนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยนั้นจะได้รับการช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องของหนี้บัตรเครดิตซึ่งจากปกติจะมีการจ่ายขั้นต่ำค่อนข้างสูงก็จะลดวงเงินลงมาเหลือเพียงแค่จ่ายหนี้ขั้นต่ำ 15 เปอร์เซ็นต์เท่าด้วยความช่วยเหลือในครั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการเข้ามาช่วยดูแลเยียวยาให้จนถึงสิ้นปีพ.ศ. 2565 เลยทีเดียว สำหรับโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ SME และลูกหนี้รายย่อยของธนาคารแห่งประเทศไทยนี้เริ่มมีผลนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

สนับสนุนโดย.  สล็อต ufabet เว็บตรง

โควิด-19 พ่นพิษ หุ้นนิเคอิ ของญี่ปุ่นดิ่งล่าสุดปิดตลาดหุ้นติดลบนักลงทุนเป็นกังวล อย่างหนัก

         โควิด-19 พ่นพิษ หุ้นนิเคอิ   สถานการณ์ของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันนั้นไม่ได้แตกต่างจากประเทศไทยเลยเพราะประเทศญี่ปุ่นมีการกลับมาระบาดของไวรัสโควิตใหม่อีกครั้งหนึ่งซึ่งในขณะนี้ทางการของประเทศญี่ปุ่นนั้นพยายามอย่างยิ่งที่จะมีการป้องกันการแพร่ระบาดด้วย

ยังมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนยังคงต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยและใช้ชีวิตแบบเว้นระยะห่างกันรวมถึงยังมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องแต่การแพร่ระบาดก็ยังคงกลับมารุนแรงอยู่เหมือนเดิม

         ซึ่งการระบาดของไวรัสโควิตในครั้งนี้ส่งผลให้นักลงทุนนั้นค่อนข้างมีความวิตกกังวลเป็นอย่างมากว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิช- จะส่งผลทำให้ดัชนีนิเคอิของตลาดหุ้นในประเทศญี่ปุ่นนั้นดิ่งลงเหวมากขึ้นกว่าเดิมเพราะหลังจากที่เริ่มมีการระบาดของไวรัส covid ดัชนีนิเคอิของหุ้นของประเทศญี่ปุ่นเมื่อเวลาปิดตลาดนั้นก็มักจะติดลบอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง 

        มีการเปิดเผยออกมาจากสำนักข่าว   NHK สำนักข่าวที่จะดูแลข้อมูลข่าวเกี่ยวกับเรื่องของหุ้นโดยตรงได้เข้าไปดูข้อมูลในตลาดหุ้นจะเห็นว่าในขณะนี้นั้นหุ้นของญี่ปุ่นนั้นมีการตกลงมากและชนิดลดลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ดัชนีนิเคอิเท่านั้นที่ตลาดติดลบแม้แต่ดัชนีแนะนำก็ตกลงเช่นเดียวกัน

ซึ่งการตกของหุ้นนั้นมีผลเพียงแค่ช่วงข้ามคืนเท่านั้นโดยหลังจากที่ปิดตลาดแล้วพบว่าหุ้นนิเคอินั้น  ตกลงมาสูงถึง 900 9 จุดหรือถ้าหากจะคิดความเสียหายเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วเราก็ได้รับความเสียหายถึง 3 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

         อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานการณ์ของหุ้นนิเคอินั้นลดลงเรื่อยๆทำให้นักลงทุนต่างก็พร้อมกันที่จะเทขายหุ้นที่ตนเองมีอยู่กันในขณะนี้เพราะไม่อยากต้องเผชิญกับภาวะความเสี่ยงของการผันผลของตลาดหุ้นสำหรับในขณะนี้เรียกได้ว่าตลาดหุ้นของญี่ปุ่นนั้นกำลังอยู่ในขั้นวิกฤตเพราะนอกจากหุ้นจะตกแล้วนักซื้อหุ้นทั้งหลายหรือนักเลงหุ้นทั้งหลายก็ยังทยอยขายหุ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

        นอกจากดัชนีหุ้นนิเคอิจะถูกทยอยขายและมีการลดลงอย่างต่อเนื่องแล้วคนอื่นๆก็มีการลดตัวลงตามมาตามหุ้นนิเคอิด้วยเช่นเดียวกันซึ่งในขณะนี้หุ้นอื่นที่เป็นของประเทศในแถบเอเชียนั้น  นักลงทุนต่างก็มีการพยายามเทขายอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว  

         ส่วนทางด้านการแพร่ระบาดของไวรัสโควิคในประเทศญี่ปุ่นนั้นเรียกได้ว่ามีการระบาดอย่างหนักในประวัติการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาซึ่งในขณะนี้มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจโดยในขณะนี้ทางการประเทศญี่ปุ่นได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในตัวเมืองใหญ่ๆแล้วไม่ว่าจะเป็นที่กรุงโตเกียวหรือที่โอซาก้ารวมถึงที่เกียวโตและเฮียวโงะและฟูโอกะ รวมถึงไอชิ  สำหรับการประกาศสภาวะฉุกเฉินในครั้งนี้นั้นจะมีการใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝาก-ถอน เอง

รถไฟ จีน-ลาว ได้เปรียบคาร์บอนเครดิต

 

รถไฟ จีน-ลาว เดือนมกราคม 2560 5 เป็นจุดเปลี่ยนของผู้ส่งออกสินค้าจากไทยและกลุ่ม CL NV ที่มีตลาดในสหภาพยุโรปถ้าผู้ส่งออกใช้เส้นทางรถไฟจีนลาว เพราะการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางรถไฟสายนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำของ สปปลาว 

ซึ่งจะมีค่าของคาร์บอนเครดิตสูงกว่าใช้เส้นทางรถยนต์และทางเรือเรื่องนี้ทำให้นักลงทุนจักรีนเคลื่อนย้ายโรงงานมาตั้งในนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวในประเทศไทยและ สปปลาว มากขึ้นโดยหวังจะใช้สิทธิ์คาร์บอนเครดิตจากนิคมและทางรถไฟ

โดยเบื้องต้นเน้นการเข้ามาประกอบสินค้าและส่งออกไปยังยุโรปอีกทอดหนึ่งคาร์บอนเครดิตสำคัญมากสำหรับสินค้าที่มีวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะมาตรฐาน EU ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของอาเซียนอีกแห่ง1 ทำให้ผู้ผลิตต้องแสวงหาคาร์บอนเครดิตเข้ามาชดเชย 

ซึ่งได้คะแนนคาร์บอนเครดิตมาจากหลายทางเช่นการใช้พลังงานทางเลือกใช้พลังงานจากฟอสซิลเช่นน้ำมัน ในการผลิตกระแสไฟฟ้าทางการผลิตสินค้าและขนส่งสินค้า ทำให้การขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานน้ำในสปปลาวมีคาร์บอนเครดิตสูงตามที่นักลงทุนต้องการ 

การจัดการของเสียได้อย่างเหมาะสมและไม่ปล่อยก๊าซมีเทนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ผู้ผลิตจำเป็นจะต้องเลือกผลิตสินค้าในโรงงานสีเขียวเช่นนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีหรือนิคมอุตสาหกรรมในฝั่งสปปลาว 

หากเทียบข้อได้เปรียบการตั้งโรงงานใน 3 พื้นที่คือประเทศไทยสปปลาวและเวียดนาม กลุ่มสินค้าที่ไม่เน้นส่งออกไปตามตลาดยุโรปที่ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ลดคาร์บอนอาจจะได้เปรียบกว่าเวียดนามขณะที่ตั้งโรงงานในสปปลาวจะได้เปรียบเรื่องการอยู่ในพื้นที่ขนส่งทางรางเข้าไปจีนและยุโรปได้โดยตรง

แต่ไทยก็จะได้เปรียบเรื่องคาร์บอนเครดิตซึ่งเป็นการผลิตที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมในอนาคต คาร์บอนเครดิตมีความสำคัญกับผู้ส่งออกในภูมิภาคนี้เพราะคณะกรรมาธิการยุโรปเสนอร่างกฎหมายกลไกการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน 

เพื่อกำหนดราคาคาร์บอนสำหรับสินค้าขาเข้ายุโรปมาตรการคาร์บอนของยุโรปส่งผลต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นคณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้ใช้กลไกปรับคาร์บอนกับสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงต่อการรั่วไหลของคาร์บอน ได้แก่เหล็กและเหล็กกล้าซีเมนต์ปุ๋ยอลูมิเนียมและกระแสไฟฟ้า

โดยจะเริ่มทดลองใช้ในปี 2566 ดังนั้นผู้นำเข้าสินค้าต้องรายงานปริมาณการปล่อยคาร์บอนของสินค้าโดยไม่ต้องชำระราคาคาร์บอนและเมื่อระบบพร้อมใช้งานในปี 2569 ผู้นำเข้าต้องรายงานปริมาณสินค้าและปริมาณคาร์บอนในสินค้าที่นำเข้ามาในปีที่ผ่านมาและต้องซื้อใบอนุญาตกลไกการปรับคาร์บอน 

ซึ่งการกำหนดราคาคาร์บอนเท่ากับราคาที่ผู้นำเข้าจะต้องชำระ หาผู้ผลิตนอกยุโรปแสดงหลักฐานว่าได้ชำระราคาคาร์บอนแล้วในประเทศที่ 3 ราคาที่ชำระไปสามารถนำหักลบกบราคาที่ผู้นำเข้าจะต้องชำระได้

 

สนับสนุนโดย.    Ufabet เข้าสู่ระบบ

เจ้าของร้านโกดังชาบู ขอประกาศปิดกิจการสู้ไม่ไหว 

       ขอประกาศปิดกิจการสู้ไม่ไหว  เชื่อว่าหลายคนคงเคยจำได้ว่าในช่วงประมาณปีพศ 2563 ซึ่งเป็นช่วงประมาณกลางปีได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้ออกมาไลฟ์สดประกาศต่อต้านรัฐบาลที่มีการสั่งให้มีการล็อคดาวห้ามขายอาหารโดยระบุว่าเธอจะไม่ปิดร้านของเธออย่างแน่นอนเพราะเธอนั้นได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส covid มาแล้ว

และเธอมีหนี้สินเป็นจำนวนมากถ้าหากเธอปิดร้านเธอก็จะไม่มีรายได้มาจุนเจือคนในครอบครัวซึ่งในครั้งนั้นได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นจำนวนมากจนมีคนเข้ามาช่วยเหลือสั่งอาหารชาบูจากร้านเธอเป็นจำนวนมากสามารถทำให้เธอนั้นดำเนินธุรกิจเปิดร้านชาบูของเธอต่อไปได้

    อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565 เจ้าของร้านชาบูเจ้าเดิมก็ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านทาง Social Media ของตนเองประกาศขอปิดกิจการร้านแบบถาวรและในไลฟ์สดของเธอนั้นเธอยังได้มีการประกาศให้เช่าหรือเซ้งพื้นที่ร้านอีกด้วย

นอกจากนี้ข้าวของภายในร้านของเธอก็ยังมีการประกาศออกมาขายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นจานชามหรือหม้อโต๊ะเก้าอี้ต่างๆโดยต้องการที่จะนำเงินจากการขายของได้ในครั้งนี้ไปทำการใช้หนี้ของเธอเองเนื่องจากว่าในขณะนี้เธอมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก

         เจ้าของร้านชาบูดังกล่าวชื่อว่าคุณแก้วได้ระบุว่าเธอได้มีการพยายามอย่างยิ่งที่จะประคับประคองร้านของเธอให้สามารถอยู่รอดต่อไปได้แต่เธอนั้นไม่สามารถที่จะต่อสู้ไหวอีกแล้วซึ่งในขณะที่ไลฟ์สดนั้นเธอก็ร้องไห้ไปด้วยโดยระบุว่าในขณะนี้หนี้สินของเธอนั้นท่วมหัวไม่สามารถที่จะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้ได้แล้วในขณะเดียวกัน

สามีของเธอก็เครียดจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าแล้วในตอนนี้ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปในท้ายที่สุดแล้วเธอจำเป็นที่จะต้องปิดร้านเพื่อเอาของภายในร้านมาขายเพื่อเป็นการใช้หนี้และมาใช้รักษาสามีของเธอนั้นเอง 

       สำหรับร้านชาบูดังกล่าวนั้นอยู่แถวย่านตลาดพลูมีชื่อว่าร้านโกดังชาบูซึ่งแต่เดิมนั้นได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าคนไทยเองนั้นก็ชอบกินชาบูเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้วและร้านนี้ก็ทำอาหารอร่อยได้ที่สำคัญอยู่ย่างกลางใจชุมชนที่มีผู้คนไปใช้บริการกันเยอะ

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประเทศไทยต้องเจอกับปัญหาการระบาดของไวรัส covid หลายธุรกิจนั้นต้องเจอกับวิกฤตซึ่งธุรกิจชาบูเองก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันไม่ใช่เพียงแค่ร้านโกดังชาบูเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจยังมีร้านชาบูร้านอื่นๆที่มีการปิดกิจการร้านไปเยอะแยะมากมาย

ซึ่งทั้งนี้ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐบาลนั้นแก้ไขปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนก่อนที่ประชาชนจะกลายมาเป็นโรคซึมเศร้ากันทั้งประเทศและอาจจะมีประชาชนอีกหลายร้อยคนที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายเหมือนกับวิกฤตต้มยำกุ้งกันเอง 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บหลัก

ไทยรั้งท้าย เอฟทีเอ

ไทยรั้งท้าย เอฟทีเอ ไม่จูงใจลงทุน อีอีซี

การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือว่าEECให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ที่ปีละ5แสนล้านบาทนั้น.  ไทยรั้งท้าย เอฟทีเอ  นอกจากการส่งเสริมการลงทุนจากทางBOIทั้งในแง่ของภาษีและที่ไม่ใช่ภาษีแล้วอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในEECนั่นก็คือการเร่งออกไปทำข้อตกลงการค้าเสรีหรือว่าFTAกับต่างประชาติ

ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนั้นประเทศไทยยังคงเป็นรองในหลายประเทศในภูมิภาคอยู่และนั่นเองเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้และถ้าเราไปดูก็จะพบว่าตลาดในประเทศไทยนั้นมีไม่ถึง70ล้านคนและไม่มากเพียงพอที่จะไปดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศ

เพื่อรองรับตลาดภายในประเทศนั่นเอง เหมือนกับเวียดนามที่มีประชากร97ล้านคนขณะที่ฟิลิปปินส์มีจำนวน108ล้านคนและอินโดนีเซียมีมากกว่า270ล้านคน ดังนั้นจึงทำให้นักลงทุนที่จะเข้ามาในไทยจะมุ่งหวังการผลิตเพื่อส่งออกเป็นสำคัญเพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุน

โดยเครื่องมือหลักที่จะทำให้ไทยขยายตลาดการส่งออกได้มากขึ้นก็คือออกไปทำข้อตกลงFTAกับประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่อให้ได้เปรียบในการส่งออกมากกว่าประเทศที่ไม่มีFTA แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับจุดแข็งในด้านนี้

ประเทศไทยก็ยังคงตามห่างประเทศคู่แข่งในอาเซียนอีกมาก มีข้อมูลากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าในอาเซียนประเทศที่มีข้อตกลงFTAมากที่สุดอันดับหนึ่ง ได้แก่ สิงค์โปร มีข้อตกลงFTA 27ฉบับครอบคุมมากถึง 65 ประเทศและคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ95.63ของประเทศคู่ค้าในตลาดโลก

อันดับสองคือ เวียดนาม มีข้อตกลงFTA 15ฉบับครอบคุม54ประเทศ อันดับสาม มาเลเซีย มีข้อตกลงFTA 14ฉบับครอบคุม19ประเทศ อันดับสี่ ไทย มีข้อตกลงFTA 13ฉบับครอบคุม18ประเทศ อันดับห้า อินโดนีเซียมีข้อตกลงFTA 11ฉบับครอบคุม18ประเทศเท่ากับไทย และ อันดับหก ฟิลิปปินส์ มีข้อตกลงFTA 9ฉบับครอบคุม20ประเทศ

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้เห็นเจนว่าจำนวนประเทศที่ไทยมีข้อตกลงการค้าเสรีอยู่นั่นรั้งท้ายกลุ่มและคิดเป็นสัดส่วนประเทศคู่ค้าน้อยที่สุดนั่นทำให้ไทยมีจุดแข็งในการส่งออกน้อยกว่าประเทศคู่แข่งและถ้าดูในขณะของประชากรแล้วก็ยิ่งทำให้ไทยเสียเปรียบประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์มากขึ้น

เพราะว่าประเทศเหล่านี้มีทั้งตลาดในประเทศและตลาดขนาดส่งออกขนาดใหญ่กว่าไทย ในส่วนของตัวเลขการส่งออกประเทศในอาเซียนก็เป็นการสะท้อนถึงความได้เปรียบของประเทศที่มีข้อตกลงFTAเป็นจำนวนมาก โดยในปี2563ประเทศที่มียอดการส่งออกอันดับหนึ่งของอาเซียนคือสิงค์โปรและมีข้อตกลงFTAมากที่สุด

มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง12.34 แสนล้านบาท อันดับสอง เวียดนาม มีมูลค่าการส่งออก9.27ล้านบาท อันดับสาม มาเลเซีย มีมูลค่าการส่งออก 7.68ล้านบาท และ อันดับสี่ ไทยมีมูลค่าการส่งออก 7.55ล้านบาท ดังนั้นจึงเป็นโจทย์ข้อใหญ่ของรัฐบาลว่าจะมีความกล้าออกไปทำข้อตกลง

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บแม่

ส่งออกผลไม้จีนสั่งคุมเข้มเรื่องโควิด-19

ส่งออกผลไม้จีน นอกจากนี้เรามาดูเส้นทางใหม่ส่งทุเรียนไปประเทศจีนจะไปทางไหนดีเขาบอกว่าหน้าทุเรียนของภาคตะวันออกที่จะเริ่มมีผลผลิตส่งออกสู่ตลาดในอีก 2 เดือนข้างหน้า

คาดว่าผลผลิตทุเรียนและมังคุดปีนี้ไม่น้อยกว่า 9 แสนตัน ทางกรมวิชาการเกษตรได้หารือกับผู้ประกอบการว่าจะส่งผลไม้ไปจีนผ่านประเทศที่ 3 ได้สะดวกขึ้นไปทางไหน 

โดยทางด่านแรกไปทางเรือผ่านด่านไฮฟองประเทศเวียดนามเพื่อนำเข้าสินค้าเข้าที่ท่าเรือชินโจเข้าประเทศจีนแล้วก็ที่สำคัญก่อนหน้านี้เองมันมีประเด็นเล็กๆแต่ว่าผลกระทบไม่เล็กเลยก็คือ

ในแง่ของประเทศไทยมีการส่งออกผลไม้แล้วก็ไปทางฝั่งประเทศจีนแล้วก็มีประเด็นว่าบางส่วนอาจจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องของCovid 19 คุมเข้มเป็นอย่างมาก

 

เพราะว่าทางฝั่งของประเทศจีนตามหลักเกณฑ์ต่างๆเปิดการสั่งการ Top Down ลงมา จากรัฐบาลส่วนกลาง ดังนั้นเขาบอกเลยว่าผลไม้ต่างๆสินค้าประเภทต่างๆที่จะมีการส่งไปยังประเทศจีนจะต้องไม่มีเชื้อ covid19 เลย 

จึงเป็นประเด็นเลยเพราะว่าพอรัฐบาลทุบโต๊ะมาแบบนี้ทางด้านของรัฐบาลท้องถิ่นก็ต้องดำเนินการตามนั้นเขาเลยมีการเข้มงวดแบบสุดๆเลยเพราะว่าหากเจ้าหน้าที่คนไหนพลาดไปนิดเดียวหนึ่งเลยคือถูกตำหนิสองเลยก็อาจจะถูกปลด ซึ่งทางฝั่งของประเทศจีนเขามีการคุมเข้มเป็นอย่างมาก  ufabet เพราะฉะนั้นนั่นก็เลยเป็นเหตุผลว่าทางด้านของผลไม้ในบ้านเราที่จะส่งออกไปเราก็ใจตุ้มๆต่อมๆว่าผลไม้ที่ส่งไปจะเป็นอย่างไร

ซึ่งอย่าลืมว่าผลไม้มันมีอายุหากเป็นสินค้าปกติไม่เป็นอะไรแต่ว่าสินค้าที่เป็นพระเอกของเราอย่างเช่นทุเรียนที่กำลังแพ็คกันอยู่มันเป็นทุเรียนสดหากส่งช้าไปแค่เพียงวันหรือ 2 วัน

กว่าจะไปถึงมือผู้บริโภคมันจะมีผลต่อรสชาติด้วยแล้วต้องบอกเลยว่าตลาดจีนเป็นตลาดที่ใหญ่และมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับคนไทย เพราะว่าตลาดผลไม้ในประเทศไทยได้ของมาเก็ตแชร์อันดับ 1 ของประเทศจีนเกือบครึ่งหนึ่งประมาณร้อยละ 45 

ในด้านหนึ่งจริงๆเลยก็ถือว่าเป็นโอกาสแต่สถานการณ์แบบนี้จริงๆแล้วเราอาจจะคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ไหมที่เราจะต้องหาโอกาสอื่นๆเผื่อเอาไว้เอาไว้หน่อยเพราะเราไม่รู้ว่านโยบายที่ทางประเทศจีนเขาคุมเข้มแบบนี้มันจะส่งผลกระทบต่อหน้าทุเรียนหรือผลไม้อื่นๆหรือเปล่า

เพราะว่าบ้านเราพอส่งออกเป็นจำนวนมากมันก็มีความเสียโอกาสหากเป็นไปได้ลองหาแหล่งอื่นเอาไว้สักนิดนึงเพราะว่าเราไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไรเผื่อกระจายในความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นตามมาในภายหลังด้วย

การลงทุนให้ผลตอบแทนเราเท่าไหร่

หลายคนกำลังสงสัยเราจะลงทุนกับความสวยยังไงให้มันได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ายกตัวอย่างเช่นคุณทำจมูกมา40,000บาทและเราจะต้องมีเงินเพิ่มเท่าไหร่เราจะต้องได้งานเพิ่มเท่าไหร่จะต้องมีค่าตอบแทนเพิ่มเท่าไหร่ เราจะบอกว่ามันง่ายมากเลย

ซึ่งคุณไปทำจมูกมา40,000บาทใช่ไหมเราก็จะต้องได้เงิน40,000บาทเท่ากับเงินที่เราเสียไปนั่นเองและนี่มันเป็นแนวคิดเบื้องหลังพื้นฐานของการลงทุนเลยเราอยากจะบอกว่าเราไม่ได้ดูที่จำนวนเงินเช่นเราลงทุนหมื่นนึงมันแพงเราลงทุนล้านนึงมันก็ยังแพงอยู่ลงทุนแค่10บาทพอมันถูก

แต่เราจะบอกว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่เราควรที่จะดูว่าการลงทุนนั้นให้ผลตอบแทนราเท่าไหร่บางคนจ่ายร้อยล้านยังบอกว่าแพงและถ้าจ่ายร้อยล้านและคุณได้ผลกำไรกลับคืนมาแปดร้อยล้านอันนี้มันก็ไม่ใช่การลงทุนที่แพงมันก็จะขึ้นอยู่กับว่ามูลค่าเงินต้นที่เราต้องลงทุนเท่าไหร่

เพราะฉะนั้นแล้วเราอยากให้คุณนั้นคิดเป็นเปอร์เต็นซ์เอาเงินลงทุนตั้งต้นของเราคิดว่าเป็น100%

และก็คิดดูว่าผลกำไรตอบแทนเรามากน้อยกี่%อย่างเราลงทุนไป100บาทเราจะได้กลับมา200บาทก็คือเราได้กลับคืนมา100บาทมันก็คือกำไรหนึ่งเท่าก็คือ100%เลย

นอกจากนี้เรายังมีฤทษฎีจุดคุ้มทุนมาฝากกันว่าเราคิดยังไงโดยที่เราแบบว่าไม่เอาเรื่องของมูลค่าเงินตามเวลาเพราะเงินแต่ละเวลามันไม่เท่ากันอย่างเช่นเงิน100บาทใน1ปีมันไม่เท่ากับปี2หรือในอีก10ปีข้างหน้าสมมติว่าเราตั้งราคาขายเอาแค่น้ำแก้วนึง15บาท

โดย15บานนี้มันคือPrice/Selling price ต้นทุนของเราคือ10บาทเขาเรียกว่าเป็นต้นทุนผันแปลก็๕อต้นทุนของเราจริงๆเลย

15ลบ10บาทเท่ากับ5บาทและ5บาทของเรามันคือกำไรข้างต้นทีนี่เราอยากให้แยกจริงๆแล้วเรามีFixed costต้นทุนคงที่หรือว่าเงินลงทุนเริ่มแรกของเราไปเท่าไรเช่นแบบค่าตั้งร้านค่าเดินทางค่าอะไรหลายอย่างเรามีกำไรต่อชิ้นตนทุนFixed costเราเป็นตัวตั้ง1,000บาทเราจะต้องขายให้ได้ถึง200แก้วมันถึงจะคืนทุน

ซึ่งมันก็เป็นคำตอบที่ว่าเราขายเท่าไหร่ถึงจะคืนทุนเราต้องขายกี่แก้วถึงจะเป็นกำไรเราอยากได้เป้าประมาณนี้ต่อเดือนคุณต้องคิดเลยว่าเราจะต้องขายเท่าไหร่เหมือนกับทำจมูกทำมา40,000บาทต้องได้ผลตอบแทนกลับมา40,000บาทแต่เราอยากให้มองว่า40,000บาทนั้นอาจจะเป้นเงินเดือน40,000บาทก็ได้

แต่อยากให้มองว่ามันมีต้นทุนอื่นๆอยู่อีกหรือเปล่าเช่นค่าใช้จ่ายอย่างอื่นต้องหักด้วยตรงนั้นคือต้นทุนผันแปรVariable cost กับ Fixed costที่เป็นต้นทุนในตอนแรก

 

สนับสนุนโดย.    gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20

เอสเอ็มอีถูกโจมตีจากไซเบอร์มีผลกระทบหนัก

ในช่วงโควิดที่ผ่านมาปัญหาที่พบของบรรดา SME ถูกโจมตีจากไซเบอร์ความเสียหายต้องบอกเลยหลายล้านบาททีเดียวแล้วตอนนี้ได้พูดถึงกันในระดับโลกก็เจอกันหนักมากหลายคนบอกมันเป็นเฉพาะเรื่องของบริษัทใหญ่มันไม่ใช่แล้วมีโอกาสโดนหมดเราต้องรีบป้องกัน

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเลยโดยเฉพาะภาคธุรกิจต่างๆ เนื่องจากว่ามันมีผลสำรวจในช่วงโควิด-19 ที่ผ่ามามันพึ่งจะเกิดโควิด-19 เมื่อปี 63 เองปรากฏว่าช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาเขาบอกว่า SME ไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์สูงขึ้นแล้วได้สร้างความเสียหายต้องบอกเลยว่าจำนวนเงินสูงมากพอสมควร

นอกจากนี้ทางผู้ประกอบการ smeซิโก้ประเทศไทยมีการเปิดเผยถึงผลเกี่ยวกับไซเบอร์ซีเคียวริตี้สำหรับ SME เขาบอกว่ามาดูตัวเลขกันเลย sme ของไทยร้อยละ 65% ถูกโจมตีทางไซเบอร์ในช่วง12 เดือนที่ผ่านมาและแบ่งเป็นการถูกโจมตีด้วย มัลแวร์ ร้อยละ 91% และถูกโจมตีด้วย ฟิชชิ่ง ร้อยละ 77% ก็ไม่หนีกันเท่าไหร่

โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19 ถ้าเราเห็นจริงๆแล้วมันมีความเสี่ยงอยู่อย่างหนึ่งก็คือหลายคนทำงานอยู่ที่บ้านคือปกติถ้าเป็นบริษัทใหญ่หน่อยเขาจะมีคอมพิวเตอร์ของบริษัทเลยแล้วมีระบบปกกันของบริษัทเขายังมีชั้นในการป้องกันแต่พอมาเป็นบริษัทขนาดกลางขนาดเล็กอาจจะไม่ได้ลงทุนตรงนี้มากมายนัก

พอเราเอาคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมาทำที่บ้านกดนั่นกดนี่ตรงนี้เป็นความเสี่ยงเลย การถูกโจมตีทางไซเบอร์เป็นเรื่องสำคัญในแวดวงธุรกิจแล้วก็ผู้ประกอบการไทยด้วยที่สำคัญเราจะต้องไปดูรูปแบบของผลกระทบที่เกิดขึ้นเขาบอกว่ามีตัวเลขsmeจำนวนร้อยละ 47% ถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้รับความเสียหายทางธุรกิจที่เขาคิดเป็นมูลค่าอยู่ที่5แสนเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นเงินบาทประมาณ 16 ล้านบาท

ซึ่งดูเหมือนตัวเลขจะไม่ได้เยอะอะไรมากมายแต่เมื่อเทียบกับรายได้ที่เจอกับวิกฤตโควิด-19 หายไปขนาดนี้หลายคนยกผ้าขาวได้เลยดังนั้นตรงนี้ถือว่าสำคัญ ในขณะเดียวกันร้อยละ 28 ได้รับความเสียหายไป 1 ล้านดอลลาร์คิดเป็นเงินบาทก็คือประมาร 33 ล้านบาท

ถ้าไปดูไส้ในบริษัทข้อมูลในความเสียหายรูปแบบมันเป็นอย่างไรร้อยละ 76 เป็นการสูญเสียข้อมูลของลูกค้าเราจะได้คิดได้ข่าวกันบ่อยถือเป็นประเด็นแรกๆที่เจอกันและจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้วย

ส่วนถัดมาร้อยละ 69 สูญเสียข้อมูลพนักงานและร้อยละ 65 เป็นการสูญเสียข้อมูลองค์กรแล้วก็ร้อยละ 57 สูญเสียข้อมูลการเงินร้อยละ 56 ปรากฎว่าทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักแล้วก็ร้อยละ 53 สูญเสียทรัพย์สินทางปัญญาและร้อยละ 49 เป็นการสูญเสียข้อมูลทางธุรกิจนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บไหนแตกดี

คำสั่งปิดโรงงานพ่นพิษเวียดนาม GDPร่วงหนัก

ซึ่งตอนนี้คำสั่งปิดโรงงานที่ประเทศเวียดนามได้เป็นการทำร้ายตัวเองอยู่ในตอนนี้จึงทำให้ตัวเลขของ GDP ตกลงมาอย่างหนักมากโดยเขาบอกว่าสำนักข่าวแห่งหนึ่งเขาบอกว่าเศรษฐกิจของเวียดนามตอนนี้กำลังหดถอยลงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา 

ผลจากการที่ทางรัฐบาลใช้มาตรการเข้มข้นสูงสุดในการควบคุมโรค covid 19 ส่งผลกระทบระบบเศรษฐกิจ เดินต่อไม่ได้ทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานในการผลิตและโรงงานต้องปิดตัวผลผลิตก็ไม่มีส่งให้ลูกค้าไม่ได้และนี่คือปัญหาของประเทศเวียดนาม

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศหรือว่า GDP ของประเทศเวียดนามการเสียบ้างในช่วงไตรมาสที่ 3 ก็คือตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกันยายน 64 ได้ร่วงลงกว่า6.1%จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วก็ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมากที่สุด

ตั้งแต่มีการติดตามตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามเลยทีเดียว

คือทางฝั่งของประเทศเวียดนามก็ตกใจเป็นอย่างมากอยู่เหมือนกัน โดยที่รายงานระบุว่ามาตรการที่เข้มการมาเติมความเข้มงวดของรัฐบาลเวียดนามในการสั่งปิดโรงงานห้ามการผลิตเมื่อพบการระบาด 

โดยที่ทางรัฐบาลจะอนุญาตบางโรงงานที่มีการติดเชื้อโควิค 19 ไม่มากให้เขาสามารถจัดหาที่พักให้กับพนักงานถ้าหากสามารถงดการเดินทางได้เท่านั้นก็จะสามารถสั่งให้เดินเครื่องจักรได้

ปรากฏว่าโรงงานเครื่องจักรจำนวนไม่น้อยเลยเขาไม่สามารถที่จะจัดการหาที่พักให้กับพนักงานได้เพราะฉะนั้นก็เลยต้องหยุดการผลิตและปิดโรงงานไปปริยาย ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเขตโรงงานโฮจิมินห์ที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศก็เลยส่งผลต่อภาคการผลิตอย่างหนักเลยทีเดียว

ซึ่งหัวหน้าทางฝ่ายสถิติอุตสาหกรรมของประเทศเวียดนามเขาได้รวบรวมข้อมูลทางด้านการผลิตมาโดยเขาบอกว่ามีบริษัทในเวียดนามร้อยละ 94 เจอกับความยุ่งยากในการประกอบกิจการก็อย่างที่กล่าวไปคือค่าสินค้าในการที่จะนำมาผลิตสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตมันถูกสั่งปิดโรงงานก็ไม่สามารถมาผลิตของตัวเองต่อไปได้แล้วก็ขาดแรงงาน

เพราะว่าตอนนี้ประชาชนต้องถูกกักตัวเพราะไม่มีใครมาทำงานไม่สามารถทำงานได้ค่าจ้างแรงงานตอนนี้พอแรงงานมันหายากก็เลยต้องแพงและขาดแคลนแรงงานอีกแล้วก็โรงงานที่เขาได้ผลิตสินค้าเขาไม่มีที่พักให้แรงงานนอน 

รัฐบาลได้กล่าวว่าหาคนให้พนักงานอยู่ภายในโรงงานไม่ได้ก็ไม่ต้องผลิตเจ้าของโรงงานก็ได้กล่าวว่าเขานั้นไม่มีพื้นที่ที่จะให้พนักงานพักอาศัยอยู่เป็นเพราะว่าพื้นที่ในโรงงานประเทศเวียดนามมีพื้นที่ค่อนข้างที่จะน้อยเป็นพื้นที่ปริมาณที่จำกัดและก็ไม่สามารถทำได้

โดยหัวหน้าฝ่ายขายของบริษัทหลักทรัพย์SSIเขาบอกว่าตอนนี้เราพยายามรัฐาลพยายามที่จะยื่นการฉีดวัคซีนให้มากขึ้นเพราะเขาคิดว่าจากนี้ไปถ้าฉีดมากขึ้นแบบนี้ปีหน้ามันจะดีขึ้นเพราะตอนนี้กำลังพยายามอยู่แต่เราพึ่งได้2เข็มร้อนละ8.8ของประชากรทั้งหมด

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    Ufabet เข้าสู่ระบบ

ทหารสูงสุดทำรัฐประหาร

ทหารสูงสุดทำรัฐประหารขึ้นเป็นนายกเมียนมา

การแถลงผ่านโทรทัศน์มิงอองลายมีขึ้น ทหารสูงสุดทำรัฐประหาร ตรงกับวันครบรอบ6เดือนหลังจากที่มีการก่อรัฐประหารโดนเขาได้ให้คำมั่นต่อการเลือกตั้งอย่างโปร่งใสแล้วก็มีพรรคการเมืองหลายพรรคในการลงแข่งขันอีกด้วยบทบาทสำคัญของการรัฐประหารชุดนี้ยังได้ให้คำมั่นอีกด้วยบอกว่า

เขาพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับบุคคลใดก็ตามซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมประชาชาตแห่งเอเซียนตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นชื่อจริงของอาเซียนนั่นเองพร้อมที่จะยอมรับใครก็ตามที่ได้ถูกเลือกเข้ามาให้เป็นผู้แทนพิเศษทางการทูตแม้ว่าจะยืนยันเช่นนั้นแต่ว่าโลกกยังรออยู่ว่า

เมื่อไรผู้นำรัฐประหารเมียนมาจะทำตามฉันทามติที่มีขึ้นในการประชุมอาเซียนนัดพิเศษที่เกิดขึ้นไปในวันที่24เมษายน64นี้เกิดขึ้นที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียนกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย

สักทีโดยการประชุมในครั้งนั้นเป็นไปเพื่อการหาลือถึงทางออกในการจัดการกับปัญหาแล้วก็ความรุนแรงการขันฆ่าประชาชนด้วยฝีมือของเจ้าหน้าที่ของกองทัพเมียนมา

หลังจากการประชุมสุดยอมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษในครั้งนั้นเหล่าผู้นำเขาก็บรรลุฉันทามติได้ด้วยกันทั้งหมด5ประการเราจะพาไปทวนความจำประการที่1ความรุนแรงในเมียนมาจะต้องยุติในทันทีแล้ว

ก็ทุกภาคส่วนต้องยุการกระทำอย่างถึงที่สุดประการที่2บอกเอาว่าจะต้องมีการเจรณาร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอันจะนำไปสู่ทางออกที่สันติโดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ประการที่3จะต้องมีทูตพิเศษประจำอาเซียนคอยทำหน้าที่เป็นตัวกลางคอยประสานงานการเจรณา

โดยจะมีเลขาธิการอาเซียนคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ประการที่4อันนี้ก็สำคัญเหมือนกันอาเซียนจะต้องช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในเมียนมาผ่านทางเดียว

ก็คือศูนย์ประสานงานสำหรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมการจัดการภัยพิบัติหรือว่าASAที่ตั้งอยู่ในอินโดนีเซียแล้วประการที่5ทูตพิเศษและคณะผู้แทนจะต้องเดินทางไปยังเมียนมาเพื่อพบกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันประสานงานและก็ดำเนินการไปสู่ความสันติที่สุด

ความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้การหาลือพิเศษในครั้งนั้นมันไม่เคยปรากฎขึ้นมาก่อนตลอด54ปีประวัติศาสตร์อาเซียนถือว่าเป็นครั้งแรกที่อาเซียนมีการจัดประชุมหาลือกันขึ้นในระดับผู้นำประเทศแบบสุดยอดผู้นำแบบนี้ในประเด็นที่สถานการณ์อันน่ากังวลเป็นกรณีของชาติสมาชิกด้วยกันเองก็คือเมียนมา

ในการนับประชุมครั้งพิเศษนี้โดยมีพลเอกอาวุโสมิงอองลายหัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมาซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นนายกรัฐมนตรีเมียนมาไปแล้วเขายังเดินทางไปเข้าร่วมด้วยตัวเองอีกด้วยเพื่อเป็นการหาทางออกในความขัดแย้งในประเทศของตนเองถือว่าเป็นครั้งแรกเลยจริงๆ