ทหารสูงสุดทำรัฐประหาร

ทหารสูงสุดทำรัฐประหารขึ้นเป็นนายกเมียนมา

การแถลงผ่านโทรทัศน์มิงอองลายมีขึ้น ทหารสูงสุดทำรัฐประหาร ตรงกับวันครบรอบ6เดือนหลังจากที่มีการก่อรัฐประหารโดนเขาได้ให้คำมั่นต่อการเลือกตั้งอย่างโปร่งใสแล้วก็มีพรรคการเมืองหลายพรรคในการลงแข่งขันอีกด้วยบทบาทสำคัญของการรัฐประหารชุดนี้ยังได้ให้คำมั่นอีกด้วยบอกว่า

เขาพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับบุคคลใดก็ตามซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมประชาชาตแห่งเอเซียนตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นชื่อจริงของอาเซียนนั่นเองพร้อมที่จะยอมรับใครก็ตามที่ได้ถูกเลือกเข้ามาให้เป็นผู้แทนพิเศษทางการทูตแม้ว่าจะยืนยันเช่นนั้นแต่ว่าโลกกยังรออยู่ว่า

เมื่อไรผู้นำรัฐประหารเมียนมาจะทำตามฉันทามติที่มีขึ้นในการประชุมอาเซียนนัดพิเศษที่เกิดขึ้นไปในวันที่24เมษายน64นี้เกิดขึ้นที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียนกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย

สักทีโดยการประชุมในครั้งนั้นเป็นไปเพื่อการหาลือถึงทางออกในการจัดการกับปัญหาแล้วก็ความรุนแรงการขันฆ่าประชาชนด้วยฝีมือของเจ้าหน้าที่ของกองทัพเมียนมา

หลังจากการประชุมสุดยอมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษในครั้งนั้นเหล่าผู้นำเขาก็บรรลุฉันทามติได้ด้วยกันทั้งหมด5ประการเราจะพาไปทวนความจำประการที่1ความรุนแรงในเมียนมาจะต้องยุติในทันทีแล้ว

ก็ทุกภาคส่วนต้องยุการกระทำอย่างถึงที่สุดประการที่2บอกเอาว่าจะต้องมีการเจรณาร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอันจะนำไปสู่ทางออกที่สันติโดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ประการที่3จะต้องมีทูตพิเศษประจำอาเซียนคอยทำหน้าที่เป็นตัวกลางคอยประสานงานการเจรณา

โดยจะมีเลขาธิการอาเซียนคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ประการที่4อันนี้ก็สำคัญเหมือนกันอาเซียนจะต้องช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในเมียนมาผ่านทางเดียว

ก็คือศูนย์ประสานงานสำหรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมการจัดการภัยพิบัติหรือว่าASAที่ตั้งอยู่ในอินโดนีเซียแล้วประการที่5ทูตพิเศษและคณะผู้แทนจะต้องเดินทางไปยังเมียนมาเพื่อพบกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันประสานงานและก็ดำเนินการไปสู่ความสันติที่สุด

ความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้การหาลือพิเศษในครั้งนั้นมันไม่เคยปรากฎขึ้นมาก่อนตลอด54ปีประวัติศาสตร์อาเซียนถือว่าเป็นครั้งแรกที่อาเซียนมีการจัดประชุมหาลือกันขึ้นในระดับผู้นำประเทศแบบสุดยอดผู้นำแบบนี้ในประเด็นที่สถานการณ์อันน่ากังวลเป็นกรณีของชาติสมาชิกด้วยกันเองก็คือเมียนมา

ในการนับประชุมครั้งพิเศษนี้โดยมีพลเอกอาวุโสมิงอองลายหัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมาซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นนายกรัฐมนตรีเมียนมาไปแล้วเขายังเดินทางไปเข้าร่วมด้วยตัวเองอีกด้วยเพื่อเป็นการหาทางออกในความขัดแย้งในประเทศของตนเองถือว่าเป็นครั้งแรกเลยจริงๆ