ประจำเดือนไม่มา หรือภาวะขาดประจำเดือน (Amenorrhea) เป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงในทุกช่วงวัย อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของฮอร์โมน โรคเรื้อรัง หรือวิถีชีวิตที่ไม่สมดุล การรักษาภาวะนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีทั้งการดูแลตนเองและการรักษาโดยแพทย์
![]()
ขั้นตอนแรก: การตรวจหาสาเหตุ วิธีการดูแลและฟื้นฟูสุขภาพ
ก่อนที่จะเริ่มการรักษา จำเป็นต้องทราบสาเหตุของการขาดประจำเดือน ซึ่งแพทย์อาจทำการตรวจ เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน ดังนี้:
- ซักประวัติสุขภาพ: ตรวจสอบรอบเดือนก่อนหน้า น้ำหนัก การใช้ยาคุมกำเนิด และปัจจัยที่อาจส่งผลต่อฮอร์โมน เช่น ความเครียดหรือการออกกำลังกายหนัก
- ตรวจร่างกาย:ตรวจดูว่ามีความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์หรือไม่
- การตรวจเลือด: เพื่อวัดระดับฮอร์โมน เช่น เอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน ฮอร์โมนไทรอยด์ และโปรแลคติน
- อัลตราซาวด์: เพื่อตรวจสอบสภาพรังไข่และมดลูก
- MRI หรือ CT Scan: หากสงสัยว่ามีเนื้องอกในสมองหรือความผิดปกติในต่อมใต้สมอง
การรักษาเมื่อประจำเดือนไม่มา
- การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ
– การปรับสมดุลวิถีชีวิต:
– ลดความเครียด: การทำสมาธิ การฝึกโยคะ หรือการใช้เทคนิคการผ่อนคลายช่วยลดความเครียดที่อาจรบกวนระบบฮอร์โมน
– ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักเกินไปซึ่งอาจรบกวนการตกไข่
– ควบคุมน้ำหนัก: หากน้ำหนักต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป ควรปรับให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
– การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์:
– เพิ่มโปรตีนและไขมันดี เช่น ปลา ไข่ และอะโวคาโด
– รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี เช่น ธัญพืชและถั่ว เพื่อช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน
- การรักษาด้วยยา
– ฮอร์โมนบำบัด: หากเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน แพทย์อาจแนะนำยาปรับสมดุลฮอร์โมน เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด หรือฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
– ยารักษาโรคอื่น ๆ: หากมีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์หรือโปรแลคติน แพทย์อาจให้ยาที่เหมาะสมกับโรคนั้น ๆ
- การรักษาภาวะเฉพาะทาง
– การรักษาภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS):
อาจใช้ยาลดฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือยากระตุ้นการตกไข่ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการมีบุตร
– การรักษาเนื้องอก:
หากพบเนื้องอกในสมองหรือต่อมใต้สมอง อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดหรือยา
การดูแลตัวเองเพิ่มเติม
- หลีกเลี่ยงสารที่รบกวนฮอร์โมน: เช่น การสูบบุหรี่หรือการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
- ตรวจสุขภาพประจำปี: เพื่อป้องกันและรักษาความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
- ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ:หากประจำเดือนไม่มานานเกิน 3 เดือน ควรรีบพบแพทย์
การรักษาประจำเดือนไม่มาขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน วิถีชีวิต หรือโรคบางอย่าง การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมและการเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาว
