การควบคุมระดับไขมันในเลือดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด แต่สำหรับคนที่มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารบางประเภทเป็นประจำ อาจทำให้ไขมันในเลือดสูงและไม่ลดลงได้ง่าย
พฤติกรรมที่เป็นปัจจัยสำคัญคือการชอบรับประทาน ของหวาน เป็นประจำ การบริโภค ไขมันสัตว์และเครื่องในสัตว์ และการที่หลงใหลใน เบเกอรี อย่างต่อเนื่อง
- ของหวาน: ตัวการเพิ่มระดับไขมันในเลือด
การบริโภคของหวาน เช่น เค้ก น้ำตาล น้ำอัดลม หรือขนมหวานอื่น ๆ เป็นประจำ มีผลกระทบโดยตรงต่อระดับไขมันในเลือด น้ำตาลในอาหารหวานจะถูกแปลงเป็นไตรกลีเซอไรด์ในร่างกาย ซึ่งเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่สามารถสะสมในหลอดเลือด หากระดับน้ำตาลในเลือดสูง ร่างกายจะไม่สามารถกำจัดไตรกลีเซอไรด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การบริโภคของหวานมากเกินไปยังเพิ่มโอกาสของโรคเบาหวานประเภท 2 ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจอีกด้วย
- ไขมันสัตว์และเครื่องในสัตว์: ศัตรูของหลอดเลือด
ไขมันสัตว์และเครื่องในสัตว์เป็นแหล่งของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง การบริโภคอาหารประเภทนี้เป็นประจำทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้หลอดเลือดตีบตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ หัวใจ หรือสมอง ยังมีปริมาณพิวรีนสูง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกาต์ (gout)
- เบเกอรี: ไขมันทรานส์ที่แฝงมา
เบเกอรี เช่น ครัวซองต์ พาย เค้ก และคุกกี้ มักมีไขมันทรานส์หรือไขมันอิ่มตัวที่ใช้ในการอบหรือเพิ่มรสชาติ ไขมันทรานส์ส่งผลต่อการเพิ่มระดับ LDL และลดคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ในเลือด ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงลบต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ เบเกอรียังมีแคลอรีสูง ซึ่งหากบริโภคบ่อยครั้งอาจนำไปสู่โรคอ้วน
แนวทางลดไขมันในเลือด
หากคุณอยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดไขมันในเลือด ควรเริ่มต้นด้วยการลดการบริโภคของหวาน เลือกใช้ความหวานจากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้งในปริมาณน้อย หลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์และเครื่องใน โดยเลือกโปรตีนไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา ไก่ไม่ติดมัน และเพิ่มผักผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เช่น แอปเปิล และข้าวโอ๊ต ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้
นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น การเดินเร็วหรือปั่นจักรยาน และปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารเสริม เช่น โอเมก้า-3 หรือยาลดไขมันในกรณีที่จำเป็น
การลดไขมันในเลือดไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความตั้งใจและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างยั่งยืน เพียงเริ่มต้นดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ คุณจะลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงในอนาคตและมีชีวิตที่สุขภาพดีขึ้น.
สนับสนุนเนื้อหาโดย เครื่องช่วยฟังต้องใส่กี่ข้าง