โรคกลัวการแต่งงาน เป็นความหวาดกลัวที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลหรือรุนแรงต่อแนวคิดหรือการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงานหรือการมีความสัมพันธ์ที่ยาวนาน คำว่า “Gamo” มาจากภาษากรีกที่แปลว่า การแต่งงาน ในขณะที่ “phobia” แปลว่า ความกลัว
แม้ว่าโรคนี้จะไม่เป็นที่รู้จักหรือพูดถึงมากนัก แต่เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อทั้งสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ส่วนตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ผู้ที่มีอาการโรคกลัวการแต่งงานอาจรู้สึกวิตกกังวล ความหวาดกลัว หรือถึงขั้นตื่นตระหนกเมื่อพูดถึงการแต่งงานหรือการอยู่ในความสัมพันธ์ที่จริงจัง
ความกลัวนี้อาจเกิดขึ้นจากประสบการณ์ในอดีต เช่น การเห็นความล้มเหลวของการแต่งงานในครอบครัว
การถูกบีบคั้นจากสังคม หรือความกลัวในเรื่องของความรับผิดชอบที่มากขึ้นที่มาพร้อมกับการแต่งงาน
อาการของโรคนี้คล้ายคลึงกับอาการของโรคกลัวอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงความวิตกกังวลที่มากเกินไป เหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว
หรือความรู้สึกที่ต้องหลีกหนี ผู้ที่ประสบปัญหาอาจหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ยาวนานหรือการพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งงาน และบางครั้งอาจส่งผลให้พวกเขาปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์ในชีวิตเลย
โรคกลัวการแต่งงานสามารถมีสาเหตุที่หลากหลาย บางคนอาจมีความกลัวในการสูญเสียเสรีภาพส่วนตัว หรือกลัวว่าการแต่งงานจะทำให้ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ในบางกรณี ผู้ที่มีอาการนี้อาจมีความกลัวในการถูกหักหลัง
หรือไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะสามารถรักษาความสัมพันธ์ในระยะยาวได้ ซึ่งมักจะเกิดจากประสบการณ์ในอดีตที่ไม่ดี เช่น การเผชิญกับการหย่าร้างของพ่อแม่ หรือเคยมีประสบการณ์ความรักที่เจ็บปวด
ผลกระทบของโรคนี้อาจรุนแรงมาก ผู้ที่มีอาการอาจรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีความสุข และรู้สึกเหมือนว่าตนเองไม่สามารถเข้าสังคมได้เหมือนคนอื่น ๆ นอกจากนี้ การปฏิเสธความสัมพันธ์ที่ยาวนานอาจทำให้พวกเขาพลาดโอกาสที่จะสร้างครอบครัวหรือมีชีวิตคู่ที่มีความสุข
การรักษาโรคกลัวการแต่งงานมักจะเน้นไปที่การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการบำบัดพฤติกรรมและการปรับความคิด (Cognitive Behavioral Therapy: CBT)
ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถระบุและจัดการกับความคิดและความรู้สึกที่เป็นต้นเหตุของความกลัว
นอกจากนี้ การฝึกฝนการรับมือกับความวิตกกังวล (Anxiety Management) ก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ป่วยจะได้เรียนรู้วิธีการผ่อนคลายและจัดการกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความกังวลอย่างมีประสิทธิภาพ
โรคกลัวการแต่งงานเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อชีวิตและความสัมพันธ์ของผู้ป่วยอย่างมาก แต่หากได้รับการรักษาที่เหมาะสมและการสนับสนุนจากคนรอบข้าง ผู้ที่มีอาการนี้ก็สามารถฟื้นตัวและมีความสัมพันธ์ที่ดีได้ในอนาคต
ผู้ให้การสนับสนุนโดย Hoiana