คำสั่งปิดโรงงานพ่นพิษเวียดนาม GDPร่วงหนัก

ซึ่งตอนนี้คำสั่งปิดโรงงานที่ประเทศเวียดนามได้เป็นการทำร้ายตัวเองอยู่ในตอนนี้จึงทำให้ตัวเลขของ GDP ตกลงมาอย่างหนักมากโดยเขาบอกว่าสำนักข่าวแห่งหนึ่งเขาบอกว่าเศรษฐกิจของเวียดนามตอนนี้กำลังหดถอยลงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา 

ผลจากการที่ทางรัฐบาลใช้มาตรการเข้มข้นสูงสุดในการควบคุมโรค covid 19 ส่งผลกระทบระบบเศรษฐกิจ เดินต่อไม่ได้ทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานในการผลิตและโรงงานต้องปิดตัวผลผลิตก็ไม่มีส่งให้ลูกค้าไม่ได้และนี่คือปัญหาของประเทศเวียดนาม

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศหรือว่า GDP ของประเทศเวียดนามการเสียบ้างในช่วงไตรมาสที่ 3 ก็คือตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกันยายน 64 ได้ร่วงลงกว่า6.1%จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วก็ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมากที่สุด

ตั้งแต่มีการติดตามตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามเลยทีเดียว

คือทางฝั่งของประเทศเวียดนามก็ตกใจเป็นอย่างมากอยู่เหมือนกัน โดยที่รายงานระบุว่ามาตรการที่เข้มการมาเติมความเข้มงวดของรัฐบาลเวียดนามในการสั่งปิดโรงงานห้ามการผลิตเมื่อพบการระบาด 

โดยที่ทางรัฐบาลจะอนุญาตบางโรงงานที่มีการติดเชื้อโควิค 19 ไม่มากให้เขาสามารถจัดหาที่พักให้กับพนักงานถ้าหากสามารถงดการเดินทางได้เท่านั้นก็จะสามารถสั่งให้เดินเครื่องจักรได้

ปรากฏว่าโรงงานเครื่องจักรจำนวนไม่น้อยเลยเขาไม่สามารถที่จะจัดการหาที่พักให้กับพนักงานได้เพราะฉะนั้นก็เลยต้องหยุดการผลิตและปิดโรงงานไปปริยาย ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเขตโรงงานโฮจิมินห์ที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศก็เลยส่งผลต่อภาคการผลิตอย่างหนักเลยทีเดียว

ซึ่งหัวหน้าทางฝ่ายสถิติอุตสาหกรรมของประเทศเวียดนามเขาได้รวบรวมข้อมูลทางด้านการผลิตมาโดยเขาบอกว่ามีบริษัทในเวียดนามร้อยละ 94 เจอกับความยุ่งยากในการประกอบกิจการก็อย่างที่กล่าวไปคือค่าสินค้าในการที่จะนำมาผลิตสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตมันถูกสั่งปิดโรงงานก็ไม่สามารถมาผลิตของตัวเองต่อไปได้แล้วก็ขาดแรงงาน

เพราะว่าตอนนี้ประชาชนต้องถูกกักตัวเพราะไม่มีใครมาทำงานไม่สามารถทำงานได้ค่าจ้างแรงงานตอนนี้พอแรงงานมันหายากก็เลยต้องแพงและขาดแคลนแรงงานอีกแล้วก็โรงงานที่เขาได้ผลิตสินค้าเขาไม่มีที่พักให้แรงงานนอน 

รัฐบาลได้กล่าวว่าหาคนให้พนักงานอยู่ภายในโรงงานไม่ได้ก็ไม่ต้องผลิตเจ้าของโรงงานก็ได้กล่าวว่าเขานั้นไม่มีพื้นที่ที่จะให้พนักงานพักอาศัยอยู่เป็นเพราะว่าพื้นที่ในโรงงานประเทศเวียดนามมีพื้นที่ค่อนข้างที่จะน้อยเป็นพื้นที่ปริมาณที่จำกัดและก็ไม่สามารถทำได้

โดยหัวหน้าฝ่ายขายของบริษัทหลักทรัพย์SSIเขาบอกว่าตอนนี้เราพยายามรัฐาลพยายามที่จะยื่นการฉีดวัคซีนให้มากขึ้นเพราะเขาคิดว่าจากนี้ไปถ้าฉีดมากขึ้นแบบนี้ปีหน้ามันจะดีขึ้นเพราะตอนนี้กำลังพยายามอยู่แต่เราพึ่งได้2เข็มร้อนละ8.8ของประชากรทั้งหมด

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    Ufabet เข้าสู่ระบบ

ทหารสูงสุดทำรัฐประหาร

ทหารสูงสุดทำรัฐประหารขึ้นเป็นนายกเมียนมา

การแถลงผ่านโทรทัศน์มิงอองลายมีขึ้น ทหารสูงสุดทำรัฐประหาร ตรงกับวันครบรอบ6เดือนหลังจากที่มีการก่อรัฐประหารโดนเขาได้ให้คำมั่นต่อการเลือกตั้งอย่างโปร่งใสแล้วก็มีพรรคการเมืองหลายพรรคในการลงแข่งขันอีกด้วยบทบาทสำคัญของการรัฐประหารชุดนี้ยังได้ให้คำมั่นอีกด้วยบอกว่า

เขาพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับบุคคลใดก็ตามซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมประชาชาตแห่งเอเซียนตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นชื่อจริงของอาเซียนนั่นเองพร้อมที่จะยอมรับใครก็ตามที่ได้ถูกเลือกเข้ามาให้เป็นผู้แทนพิเศษทางการทูตแม้ว่าจะยืนยันเช่นนั้นแต่ว่าโลกกยังรออยู่ว่า

เมื่อไรผู้นำรัฐประหารเมียนมาจะทำตามฉันทามติที่มีขึ้นในการประชุมอาเซียนนัดพิเศษที่เกิดขึ้นไปในวันที่24เมษายน64นี้เกิดขึ้นที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียนกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย

สักทีโดยการประชุมในครั้งนั้นเป็นไปเพื่อการหาลือถึงทางออกในการจัดการกับปัญหาแล้วก็ความรุนแรงการขันฆ่าประชาชนด้วยฝีมือของเจ้าหน้าที่ของกองทัพเมียนมา

หลังจากการประชุมสุดยอมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษในครั้งนั้นเหล่าผู้นำเขาก็บรรลุฉันทามติได้ด้วยกันทั้งหมด5ประการเราจะพาไปทวนความจำประการที่1ความรุนแรงในเมียนมาจะต้องยุติในทันทีแล้ว

ก็ทุกภาคส่วนต้องยุการกระทำอย่างถึงที่สุดประการที่2บอกเอาว่าจะต้องมีการเจรณาร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอันจะนำไปสู่ทางออกที่สันติโดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ประการที่3จะต้องมีทูตพิเศษประจำอาเซียนคอยทำหน้าที่เป็นตัวกลางคอยประสานงานการเจรณา

โดยจะมีเลขาธิการอาเซียนคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ประการที่4อันนี้ก็สำคัญเหมือนกันอาเซียนจะต้องช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในเมียนมาผ่านทางเดียว

ก็คือศูนย์ประสานงานสำหรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมการจัดการภัยพิบัติหรือว่าASAที่ตั้งอยู่ในอินโดนีเซียแล้วประการที่5ทูตพิเศษและคณะผู้แทนจะต้องเดินทางไปยังเมียนมาเพื่อพบกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันประสานงานและก็ดำเนินการไปสู่ความสันติที่สุด

ความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้การหาลือพิเศษในครั้งนั้นมันไม่เคยปรากฎขึ้นมาก่อนตลอด54ปีประวัติศาสตร์อาเซียนถือว่าเป็นครั้งแรกที่อาเซียนมีการจัดประชุมหาลือกันขึ้นในระดับผู้นำประเทศแบบสุดยอดผู้นำแบบนี้ในประเด็นที่สถานการณ์อันน่ากังวลเป็นกรณีของชาติสมาชิกด้วยกันเองก็คือเมียนมา

ในการนับประชุมครั้งพิเศษนี้โดยมีพลเอกอาวุโสมิงอองลายหัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมาซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นนายกรัฐมนตรีเมียนมาไปแล้วเขายังเดินทางไปเข้าร่วมด้วยตัวเองอีกด้วยเพื่อเป็นการหาทางออกในความขัดแย้งในประเทศของตนเองถือว่าเป็นครั้งแรกเลยจริงๆ

ต้องการส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม ยสท. เตรียมวางแผน ขายบุหรี่ราคาถูก แข่งกับบุหรี่เถื่อน 

          ในขณะนี้ประเทศไทยมีการขายบุหรี่ให้กับประชาชนโดยราคาต่ำสุดเน้นอยู่ที่ราคาซองละ 60 บาท ยสท. เตรียมวางแผน ขายบุหรี่ ซึ่งการขายบุหรี่ทุกครั้งเจ้าร้านขายบุหรี่จะต้องมีการเสียเงินให้กับกรมสรรพสามิตซึ่งเป็นกฎหมายบังคับที่มีการใช้งานอยู่แล้วโดยในขณะนี้ทางด้านกรมสรรพสามิตจะได้มีการได้รับภาษีจากการขายบุหรี่อยู่ที่ประมาณซองละ 6 บาท

        อย่างไรก็ตามเมื่อทางด้านกรมสรรพสามิตเก็บภาษีเพิ่มมากขึ้นก็ทำให้ร้านค้าหลายรายหันมาขายบุหรี่เถื่อนกันมากขึ้นและประชาชนก็หันมาสนใจที่จะซื้อบุหรี่เถื่อนกันเยอะขึ้น

เพราะราคาบุหรี่นั้นถูกกว่าบุหรี่ที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปมากนั่นเองและผลกระทบที่ตามมานั่นก็คือรัฐบาลไม่สามารถที่จะเก็บส่วนแบ่งทางการตลาดจากการขายบุหรี่ได้เยอะเพราะประชาชนให้ความสนใจในการซื้อบุหรี่ที่ถูกกฎหมายน้อยลงนั่นเอง

            ดังนั้นทางด้านองค์กรยาสูบแห่งประเทศไทยหรือ ยสท.  จึงได้มีแนวความคิดที่จะเพิ่มช่องทางส่วนแบ่งทางการตลาดจากการขายบุหรี่ให้เยอะขึ้น

โดยมีการเตรียมวางแผนการที่จะผลิตบุหรี่ขึ้นมาขายให้กับประชาชนโดยบุหรี่ที่นำมาขายนั้นจะมีการขายในราคาที่ถูกซึ่งมีการเคาะราคาออกมาแล้วว่าจะขายอยู่ที่ประมาณ ซองละ 50 บาทหรือไม่เกิน 55 บาทเท่านั้น

          เพราะเชื่อว่าถ้ามีการขายบุหรี่ในราคาที่ประหยัดลงประชาชนก็จะหันมาสนใจซื้อบุหรี่ในราคาถูกนี้แถมยังเป็นบุหรี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่เคยหายไปก็จะได้กลับคืนมานั่นเองแต่อย่างไรก็ตามการที่ทาง ยสท.  จะสามารถทำตามแผนการที่วางไว้ได้

หรือไม่งั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับทางกรมสรรพสามิตอีกด้วยกรมสรรพสามิตเห็นด้วย ยสท.  ก็จะสามารถเริ่มแผนการผลิตบุหรี่ราคาถูกออกมาจำหน่ายใต้แต่ถ้าเกิดไม่เห็นด้วยก็ไม่สามารถออกมาจำหน่ายได้เช่นเดียวกัน

                อย่างไรก็ตามสำหรับข้อมูลที่ทางด้านกรมประสานมิตรออกมาเรียกเก็บค่าภาษีบุหรี่ค่อนข้างแพงนั้นก็เพราะว่าต้องการที่จะให้คนไทยนั้นเห็นว่าเมื่อบุหรี่มีราคาสูงขึ้น

ก็จะลดการสูบบุหรี่น้อยลงไปนั่นเองแต่อันที่จริงแล้วเมื่อบุหรี่ที่มีการนำออกมาจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นประชาชนก็จะหันมาหาช่องทางอื่นในการซื้อบุหรี่มาสูบแทนดังนั้นพ่อบุหรี่ขายแพงประชาชนจึงซื้อบุหรี่เถื่อนมาสูบขึ้นนั่นเอง

หรือบางคนถ้าเป็นชาวบ้านที่อยู่ตามต่างจังหวัดก็จะมีการปลูกต้นยาสูบแล้วทำบุหรี่ ห่อม้วนกระดาษใช้เองซึ่งเป็นลดค่าใช้จ่ายพวกเขาโดยตรง  ดังนั้นการที่มีการเรียกเก็บค่าภาษีบุหรี่แพงขึ้นก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อรัฐบาลมากแต่อย่างใด 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    ทางเข้า Ufabet มือถือ