ศูนย์สิริกิตปรับรูปโฉมใหม่หวังเจาะตลาดกลุ่มคนเมืองเพิ่มทั้งร้านค้าร้านอาหารและ Detail ต่างๆ 

         หลังจากที่ผู้คนต้องมีการล็อกดาวน์ไม่ได้เดินทางไปเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆสักเท่าไหร่ปัจจุบันเริ่มมีการปรับตัวให้สามารถใช้ชีวิตให้เข้ากับเชื้อไวรัส covid ได้แล้ว ศูนย์สิริกิตปรับรูปโฉมใหม่ ผู้คนก็เริ่มหันมาใช้ชีวิตกันตามปกติมากขึ้นเพียงแต่ว่าต้องดูแลตัวเองให้ดีมากขึ้นเท่านั้นเองซึ่งแน่นอนว่าผู้คนเริ่มหันมาสนใจไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆมากขึ้น

         ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจึงเริ่มมีการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวของตนเองให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวเพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปใช้บริการและหนึ่งในนั้นก็คือศูนย์สิริกิตนั้นเองซึ่งที่นี่นั้นเป็นศูนย์ที่มีการเปิดจัดกิจกรรมต่างๆมากมายเป็นศูนย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชียแห่งหนึ่งซึ่งในแต่ละปีนั้นจะรองรับนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานกิจกรรมและงานจัดงานเลี้ยงต่างๆอยู่บ่อยครั้ง

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่ต้องปิดในช่วง covid ไปก็ทำให้ศูนย์สิริกิตนั้นสถานที่นั้นค่อนข้างซบเซาทางด้านศูนย์สิริกิตจึงได้มีการปรับปรุงรูปแบบโฉมใหม่เพื่อดึงดูดกลุ่มคนเมืองให้มาใช้บริการที่ศูนย์สิริกิตแห่งนี้นั่นเองและผู้ที่เข้าไปทำการปรับปรุงรูปแบบโฉมใหม่ของศูนย์สิริกิติ์นั้นก็คือ NCC  ซึ่งการการออกมาปรับปรุงรูปแบบใหม่นี้จะมีการปรับปรุงในเรื่องของไลฟ์สไตล์ต่างๆมีการเพิ่มร้านอาหารและร้านค้าต่างๆมากมายรวมถึงมีการเพิ่มกิจกรรมต่างๆมากมายเช่นกิจกรรมในเรื่องของการรักสุขภาพและการออกกำลังกายเพื่อดึงดูดคนกลุ่มคนเมืองให้มาใช้บริการเพราะคนกลุ่มนี้นั้นมีกำลังทรัพย์มากพอและชื่นชอบการใช้ชีวิตแบบไร้สายแบบหลากหลายทั้งในเรื่องอาหารการกินและการดูแลสุขภาพของตนเองนั้นเอง 

        อย่างไรก็ตามการวางแผนการที่จะมีการปรับปรุงโฉมของศูนย์สิริกิตนั้นหวังว่าที่นี่จะไม่ใช่เพียงแค่เป็นศูนย์ประชุมเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังจะเป็นสถานที่ที่สามารถให้ผู้คนนั้นมาใช้บริการที่นี่ได้แบบหลากหลายมากอีกด้วยโดยทางศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตจะมีการขยายพื้นที่ให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก 30 เปอร์เซ็นต์ซึ่งสามารถรองรับให้คนเข้าไปใช้บริการได้มากกว่า 13 ล้านคนต่อปีโดยทีเดียว

            อย่างไรก็ตามแผนการพัฒนาศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นี้คาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนแผนการต่างๆได้และพัฒนาให้เสร็จสิ้นได้ภายในเดือนกันยายนปีพ.ศ 2555 นี้หลังจากนั้นถ้าหากว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะเดินทางมาเที่ยวที่ศูนย์สิริกิตคุณก็จะได้พบกับความหลากหลายภายในสถานที่แห่งนี้เพราะที่นี่นั้นจะมีทั้งเครื่องดื่มและการจัดงาน Event และซอยต่างๆเอาไว้คอย support บรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ทางเข้าเล่น

มาตรการคุมร้านบุฟเฟ่ต์ช่วงโควิด-19 ปิดร้านดีกว่าเปิดร้าน 

         เมื่อวันที่ 18 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564   ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขได้มีการออกมายืนยันเกี่ยวกับมาตรการคุมเข้มร้านอาหารในโซนพื้นที่สีแดงโดยให้มีการควบคุมอย่างเข้มงวดตามมาตรการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ซึ่งได้มีการประกาศเอาไว้แล้ว

ว่าร้านอาหารจะต้องมีการให้ลูกค้านั่งได้ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นจากจำนวนลูกค้าปกติที่เคยรับมาที่สำคัญทุกโต๊ะจะต้องมีการทำฉากกั้นไม่ให้นั่งใกล้กันและร้านอาหารจะเปิดได้ถึงแค่ 21:00 น เท่านั้นหลังจากนั้นจะเป็นการซื้อกลับไปกินที่บ้านได้ถึงแค่ 23:00 น 

          แน่นอนว่ามาตรการนี้เป็นการคุมเข้มเพื่อเป็นการไม่ให้ประชาชนอยู่ในความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อไวรัสขณะที่ออกมาทานอาหารนอกบ้านและในขณะเดียวกัน

ในมุมมองของร้านอาหารนั้นเป็นการกระทำที่ทำให้ร้านอาหารนั้นไม่สามารถที่จะขายของได้เลยเพราะเมื่อเปิดร้านจะต้องมีต้นทุนในการเปิดร้านทั้งค่าเอาร้านค่าแอร์ที่ต้องเปิดให้ลูกค้ารวมถึงค่าจ้างพนักงานและค่าวัสดุในการทำอาหารซึ่งถ้าหากสามารถรับลูกค้าได้เพียงแค่วันละไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นหากคำนวณรายรับกับรายจ่ายแล้วร้านอาหารจะได้ไม่คุ้มค่ากับการที่ต้องเสียเงินจ่ายค่าแอร์ในวันนั้นเลย

   อย่างไรก็ตามมาตรการคุมเข้มนี้เมื่อมีการพูดถึงร้านบุฟเฟต์นั้นปรากฏว่ามีการกำหนดนโยบายเพิ่มเติมด้วยว่าร้านบุฟเฟ่ต์นั้นนอกจากจะนั่งโต๊ะละคนแล้ว

ยังห้ามลูกค้าลุกขึ้นไปตัดเองจะต้องมีพนักงานคอยบริการให้ซึ่งแน่นอนว่าหากมีลูกค้านั่งอยู่ในร้าน 9 คนก็จะต้องมีพนักงานคอยบริการอย่างน้อย 3 คนเพื่อให้ทันความต้องการของลูกค้าที่จะสั่งอาหารนอกจากนี้ยังมีการคุมเข้มกำหนดว่าอาหารบุฟเฟ่ต์นั้นสามารถนั่งได้นานเกินครั้งละ 2 ชั่วโมง

       ซึ่งจะเห็นได้ว่าปกติแล้วร้านอาหารบุฟเฟ่ต์นั้นค่าหัวอยู่ที่ประมาณ 300 กว่าบาทถึง 500 กว่าบาทเพียงเท่านั้นถ้าหากว่าวันนึงรับลูกค้าได้เพียงไม่กี่คนและยังต้องมีพนักงานมายืนคอยบริการลูกค้าอยู่รวมถึงต้องมีค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อวัตถุดิบและค่าแอร์ค่าอุปกรณ์ต่างๆเรียกได้ว่าเปิดร้านมาไม่คุ้มทุนเลยทีเดียวซึ่งวิธีการแบบนี้สู้ให้ร้านบุฟเฟ่ต์ปิดร้านไปเลยจะยังสามารถเซฟค่าใช้จ่ายได้เยอะกว่าเพราะถ้าหากเปิดร้านยังไงก็ขาดทุนอย่างแน่นอน

        สำหรับนโยบายคุมเข้มของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมานั้นจะช่วยเรื่องลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสได้จริงแต่จะมีปัญหาเกี่ยวกับผู้ประกอบการร้านอาหารที่จะต้องขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจตามเงื่อนไขของกระทรวงสาธารณสุขนั้นเอง และนี่จะเป็นการทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารขาดทุนและในที่สุดก็จะปิดกิจการ เพราะเปิดขายของมาก็ไม่มีกำไร

 

สนับสนุนโดย.    UFABET เว็บหลัก

ธปท. ช่วยเหลือลูกหนี้ช่วง covid ด้วยการเพิ่มมาตรการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต 5 เปอร์เซ็นต์ จนถึงสิ้นปี 65 

         ธปท. ช่วยเหลือลูกหนี้ช่วง covid ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด ไม่สามารถพ้นวิกฤตในช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยการเสริมสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ซึ่งเป็นลูกหนี้ในกลุ่มบริษัท sme รวมถึงกลุ่มลูกหนี้รายย่อยต่างๆโดยมาตรการที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาช่วยเหลือนั่น

ก็คือมาตรการที่จะให้ลูกหนี้ได้มีการจ่ายหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำเพียงแค่ 5% เท่านั้นด้วยระยะเวลาในการช่วยเหลือในครั้งนี้นั้นจะยาวนานไปจนถึงสิ้นปีพ.ศ. 2565 เลยทีเดียว 

       เมื่อวันที่ 20 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564 ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ของประเทศไทยว่ายังคงมีการระบาดของไวรัสโควิช- อย่างต่อเนื่องและสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเนื่องจากว่าไวรัส covid ได้มีการกลายผ่านสิ่งที่มีผลกระทบตามมาต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก

     ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ธนาคารเองเชื่อว่าในขณะนี้การแก้ไขปัญหาภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นอาจจะยังไม่สามารถแก้ไขให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาอันใกล้นี้เชื่อว่าธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศไทยจะค่อนข้างฟื้นตัวได้ช้าอย่างแน่นอนเพราะสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหนก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเรื่องของการท่องเที่ยวโดยในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าประชาชนนั้นถูกเลิกจ้างงานอย่างต่อเนื่องและประชาชนนั้นมีหนี้สินครัวเรือนที่ค้างนี่เป็นจำนวนมาก

      ดังนั้นทางด้านการธนาคารแห่งประเทศไทยจึงอยากช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในช่วงวิกฤตของการระบาดของไวรัสโควิตในช่วงนี้จึงได้มีการเสนอมาตรการออกมาช่วยเหลือลูกหนี้ของทางธนาคารโดยนโยบายที่มีการออกมานั้นก็คือจะช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้แนว SME รวมถึงลูกหนี้รายย่อยเป็นการช่วยเหลือที่จะสามารถทำให้เจ้าของธุรกิจ sme สามารถยังคงดำเนินการทำธุรกิจหาเลี้ยงชีพตนเองต่อไปได้เป็นการรักษาสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ SME นั่นเอง

    ซึ่งทางธนาคารได้มีการอนุมัติและว่าจะเข้ามาช่วยเหลือผ่อนปัญหาของลูกหนี้ sme ด้วยการออกมาตรการสำหรับลูกหนี้ให้สามารถทำการออกสินเชื่อในราคาดอกเบี้ยต่ำแล้วถ้าหาก sme  มีปัญหาด้านการเงินก็พร้อมที่จะมีการแบ่งเบาภาระปัญหาดังกล่าว ซึ่งอาจจะรวมถึงการขยายวงเงินสินเชื่อ

    นอกจากนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยนั้นจะได้รับการช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องของหนี้บัตรเครดิตซึ่งจากปกติจะมีการจ่ายขั้นต่ำค่อนข้างสูงก็จะลดวงเงินลงมาเหลือเพียงแค่จ่ายหนี้ขั้นต่ำ 15 เปอร์เซ็นต์เท่าด้วยความช่วยเหลือในครั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการเข้ามาช่วยดูแลเยียวยาให้จนถึงสิ้นปีพ.ศ. 2565 เลยทีเดียว สำหรับโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ SME และลูกหนี้รายย่อยของธนาคารแห่งประเทศไทยนี้เริ่มมีผลนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

สนับสนุนโดย.  สล็อต ufabet เว็บตรง

โควิด-19 พ่นพิษ หุ้นนิเคอิ ของญี่ปุ่นดิ่งล่าสุดปิดตลาดหุ้นติดลบนักลงทุนเป็นกังวล อย่างหนัก

         โควิด-19 พ่นพิษ หุ้นนิเคอิ   สถานการณ์ของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันนั้นไม่ได้แตกต่างจากประเทศไทยเลยเพราะประเทศญี่ปุ่นมีการกลับมาระบาดของไวรัสโควิตใหม่อีกครั้งหนึ่งซึ่งในขณะนี้ทางการของประเทศญี่ปุ่นนั้นพยายามอย่างยิ่งที่จะมีการป้องกันการแพร่ระบาดด้วย

ยังมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนยังคงต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยและใช้ชีวิตแบบเว้นระยะห่างกันรวมถึงยังมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องแต่การแพร่ระบาดก็ยังคงกลับมารุนแรงอยู่เหมือนเดิม

         ซึ่งการระบาดของไวรัสโควิตในครั้งนี้ส่งผลให้นักลงทุนนั้นค่อนข้างมีความวิตกกังวลเป็นอย่างมากว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิช- จะส่งผลทำให้ดัชนีนิเคอิของตลาดหุ้นในประเทศญี่ปุ่นนั้นดิ่งลงเหวมากขึ้นกว่าเดิมเพราะหลังจากที่เริ่มมีการระบาดของไวรัส covid ดัชนีนิเคอิของหุ้นของประเทศญี่ปุ่นเมื่อเวลาปิดตลาดนั้นก็มักจะติดลบอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง 

        มีการเปิดเผยออกมาจากสำนักข่าว   NHK สำนักข่าวที่จะดูแลข้อมูลข่าวเกี่ยวกับเรื่องของหุ้นโดยตรงได้เข้าไปดูข้อมูลในตลาดหุ้นจะเห็นว่าในขณะนี้นั้นหุ้นของญี่ปุ่นนั้นมีการตกลงมากและชนิดลดลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ดัชนีนิเคอิเท่านั้นที่ตลาดติดลบแม้แต่ดัชนีแนะนำก็ตกลงเช่นเดียวกัน

ซึ่งการตกของหุ้นนั้นมีผลเพียงแค่ช่วงข้ามคืนเท่านั้นโดยหลังจากที่ปิดตลาดแล้วพบว่าหุ้นนิเคอินั้น  ตกลงมาสูงถึง 900 9 จุดหรือถ้าหากจะคิดความเสียหายเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วเราก็ได้รับความเสียหายถึง 3 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

         อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานการณ์ของหุ้นนิเคอินั้นลดลงเรื่อยๆทำให้นักลงทุนต่างก็พร้อมกันที่จะเทขายหุ้นที่ตนเองมีอยู่กันในขณะนี้เพราะไม่อยากต้องเผชิญกับภาวะความเสี่ยงของการผันผลของตลาดหุ้นสำหรับในขณะนี้เรียกได้ว่าตลาดหุ้นของญี่ปุ่นนั้นกำลังอยู่ในขั้นวิกฤตเพราะนอกจากหุ้นจะตกแล้วนักซื้อหุ้นทั้งหลายหรือนักเลงหุ้นทั้งหลายก็ยังทยอยขายหุ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

        นอกจากดัชนีหุ้นนิเคอิจะถูกทยอยขายและมีการลดลงอย่างต่อเนื่องแล้วคนอื่นๆก็มีการลดตัวลงตามมาตามหุ้นนิเคอิด้วยเช่นเดียวกันซึ่งในขณะนี้หุ้นอื่นที่เป็นของประเทศในแถบเอเชียนั้น  นักลงทุนต่างก็มีการพยายามเทขายอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว  

         ส่วนทางด้านการแพร่ระบาดของไวรัสโควิคในประเทศญี่ปุ่นนั้นเรียกได้ว่ามีการระบาดอย่างหนักในประวัติการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาซึ่งในขณะนี้มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจโดยในขณะนี้ทางการประเทศญี่ปุ่นได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในตัวเมืองใหญ่ๆแล้วไม่ว่าจะเป็นที่กรุงโตเกียวหรือที่โอซาก้ารวมถึงที่เกียวโตและเฮียวโงะและฟูโอกะ รวมถึงไอชิ  สำหรับการประกาศสภาวะฉุกเฉินในครั้งนี้นั้นจะมีการใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝาก-ถอน เอง