คาใจรัฐบาล สั่งปิดแคมป์นาน 1 เดือนนักลงทุนอสังหาฯฝากถามนายกรู้เรื่องก่อสร้างดีแค่ไหน 

         คาใจรัฐบาล กลายเป็นกระแสร้อนแรงอยู่ในตอนนี้สำหรับการที่รัฐบาลออกมาประกาศล็อคดาวน์พื้นที่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลรวมถึงการประกาศล็อคดาวแคมป์คนงานก่อสร้างทุกแชมป์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลโดยให้มีผลในวันที่ 28 เดือนมิถุนายนปีพ.ศ. 2564

โดยคำสั่งประกาศนี้ได้มีคำสั่งออกมาเมื่อวันที่ 26 เดือนมิถุนายนปีพ.ศ. 2564 ช่วงเวลาประมาณ 01:00 น.  ซึ่งการล็อคดาว 1 เดือนนี้ทางรัฐบาลยินดีที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยการจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้าง 50%

       อย่างไรก็ตามกระแสดราม่าเกิดขึ้นเมื่อทางนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์รวมถึงประชาชนคนอื่นๆ

ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของการก่อสร้างต่างก็มองว่าการที่รัฐบาลมีการสั่งประกาศปิดแคมป์คนงานเป็นระยะเวลานานถึง 1 เดือนนั้นสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการเป็นอย่างมากเพราะผู้ประกอบการไม่ได้เสียหายเฉพาะแค่ค่าจ้างของลูกจ้างเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีเงินอีกมากมายที่ทางผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นกรณีที่มีการส่งงานไม่ทันตามกำหนด

          ซึ่งทางด้านนายจ้างสามารถทำการปรับเงินได้นอกจากนี้ยังมีเรื่องของดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ปล่อยกู้กับทางธนาคารมาเพื่อทำธุรกิจก่อสร้างซึ่งถ้าหากงานต้องเลื่อนออกไปอีก 1 เดือนการที่จะได้รับเงินมาจากนายจ้างเร็วหลังจากส่งมอบงานก็จะเลื่อนออกไปอีกเช่นเดียวกันดังนั้นก็ต้องเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคารเพิ่มขึ้นอีก 1 เดือนนอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของภาษีเรื่องของสิทธิประโยชน์ต่างๆ

          ถ้าหากว่ามีการส่งมอบงานเสร็จสิ้นภายในปีนี้ก็จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนในช่วงสิ้นปีซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ทางด้านนายกรัฐมนตรีเองไม่ได้มีการออกมาพูดถึงว่าจะมีการช่วยเหลืออย่างไรบ้างเพราะถ้าหากนายกรัฐมนตรีต้องการช่วยเหลือเยียวยาจริงๆจะต้องมีการดูแลครบทุกส่วนที่ทางผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบตามมาจากการประกาศล็อกดาวน์นั้นเอง

            อย่างไรก็ตามสำหรับประกาศของนายกรัฐมนตรีนี้สร้างความเสียหายให้กับเจ้าของธุรกิจที่ทำธุรกิจการก่อสร้างมาก

เพราะช่วงระยะเวลา 1 เดือนนั้นสามารถทำอะไรได้เยอะไม่ใช่เพียงแค่การหยุดงานเพียงอย่างเดียวแต่เจ้าของธุรกิจที่รับเหมาก่อสร้างจะต้องแบกรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหลายอย่างเลยทีเดียว ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการที่นายกรัฐมนตรีจะประกาศปิดหรือน็อคดาวน์อะไรนั้นควรจะต้องมีการศึกษารายละเอียดการลงทุนของธุรกิจนั้นๆว่าได้รับผลกระทบมากแค่ไหนก่อนที่จะตัดสินใจประกาศล็อกดาวน์เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เจ้าของธุรกิจเสียหายและเจ๊งได้ 

 อย่างไรก็ตามเราคงต้องรอดูท่าทีของนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่หลายคนออกมาเรียกร้องถึงความรับผิดชอบจากการที่นายกรัฐมนตรีมีการประกาศล็อคดาวซึ่งทำให้ธุรกิจนั้นได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝากเงิน ออโต้

ธุรกิจของ“ โรเบิร์ต บ๊อช “อยู่นานถึง133ปี

จุดเริ่มต้นของ BOSCHมาจากผู้ชายที่มีชื่อว่า “ โรเบิร์ต บ๊อช “ เขาเป็นนักประดิษฐ์ที่มีความอยากรู้และชั่งสังเกตได้เริ่มต้นเส้นทางชีวิต  ธุรกิจของโรเบิร์ต บ๊อช  ในเส้นทางอาชีพของเขาจากการรับจ้างงานที่จะต้องใช้ฝีมือช่างย่างเช่นงานติดระบบโทรศัทพ์หรือว่างานติดตั้งกระดิ่งไฟฟ้า

ซึ่งจากคำสามารถตรงนั้น BOSCH ก็ได้เริ่มรับจ้างออกแบบสิ่งประดิษฐ์ที่คนอื่นคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้และทำไมได้อย่างเช่นตัวบ่งชี้ระดับน้ำจากระยะไกลหรือว่าเครื่องพิมพ์ดีดสำหรับคนตาบอดแล้ว “ โรเบิร์ต บ๊อช “ ยังได้เปิดทุนวิศวะกรรมเพื่อความแม่นยำทางกลศาสตร์และวิศวะกรรมไฟฟ้าเพื่อพัฒนาเรื่องนี้โดยเฉพาะ

โดยจุดเปลี่ยนที่“ โรเบิร์ต บ๊อช “

นั้นได้ถูกว่าจ้างให้สร้างอุปกรณ์จุดระเบิดแบบแมกนีโต“ โรเบิร์ต บ๊อช “จึงได้คิดค้นระบบจุดระเบิดเครื่องยนต์แมกนีโตขึ้นมาถึงแม้ในยุคนั้นจะมีคนมากมายที่พยายามคิดวิธีจุดระเบิดแบบนี้ขึ้นมาแต่“ โรเบิร์ต บ๊อช “คือคนที่สามารถทำให้มันใช้ได้จริงมีเสถียรภาพมีประสิทธิภาพจริงแล้วก็เอาไปใช้ในความเป็นจริงได้

นอกจากนี้ในตอนนั้นเองได้มีรถยนต์อยู่บริษัทหนึ่งที่กำลังพัฒนารถยนต์ของตัวเองเพื่อที่จะก้าวขึ้นมาสู่รถยนต์ชั้นแนวหน้าของโลกและต้องการที่จะเอาลงไปแข่งในสนามสุดโหดและ“ โรเบิร์ต บ๊อช “ได้มีความสำคัญในการแข่งขันในครั้งนี้เพราะว่าเขานั้นได้มอบตัวจุดระเบิดที่มันเชื่อถือได้และก็ทำงานได้ดีตามสภาพอากาศแล้วก้สภาพของสนามสุดโหดของการแข่งขันในครั้งนี้

ซึ่งก็ได้ทำให้บริษัทรถยนต์แห่งนั้นสามารถที่จะคว้าชัยชนะ

ในการแข่งขันในครั้งนั้นมาได้บริษัทนี้ก็คือบริษัทที่ใครหลายๆคนคุ้นหูก็คือบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์และนั่นก็คือที่มาของโลโก๋ BOSCH ที่เป็นภาพตัดขวางของตัวจุดระเบิดแบบแมกนีโตถ้าเป็นเราเราก็อาจจะคิดว่าความสำเร็จนี้คือที่สุดแล้วแต่นั่นมันก็ไม่ใช่ความเชื่อของ“ โรเบิร์ต บ๊อช “

เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่“ โรเบิร์ต บ๊อช “นั้นเชื่อก็คือเทคโนโลยีมีเทคโนโลยีใหม่ๆทุกวันโลกมันได้หมุนไปทุกวันและเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันมันก็จะเก่าลงทุกๆวันเหมือนกันดังนั้นในคติประจำใจของเขาที่ได้ส่งต่อไปถึงพนักงานกว่า4แสนคนทั่วโลกก็คือ เราจะต้องคิดนวัตกรรมเพื่อที่จะให้คนทั่วโลกได้มีชีวิตที่ดีขึ้นมรทุกๆวัน

ดังนั้นย้อนกลับไปในปี2456 ก็คือระบบส่องสว่างที่ใช้ไฟฟ้าที่ประกอบไปด้วยไฟหน้าเครื่องกำเนิดควบคุมค่าแล้วก็แบตเตอรี่มันสามารถทำให้คนที่มีรถยนต์สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในช่วงระยะเวลากลางคืนและนั่นก็คือที่มาของไฟหน้ารถยนต์ที่ถูกนำเอาไปใช้ในรถยนต์เกือบทุกคันเกือบจะทุกยี่ห้อทั่วโลกในปัจจุบัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ufabet ฝากเงิน ออโต้