การลงทุนให้ผลตอบแทนเราเท่าไหร่

หลายคนกำลังสงสัยเราจะลงทุนกับความสวยยังไงให้มันได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ายกตัวอย่างเช่นคุณทำจมูกมา40,000บาทและเราจะต้องมีเงินเพิ่มเท่าไหร่เราจะต้องได้งานเพิ่มเท่าไหร่จะต้องมีค่าตอบแทนเพิ่มเท่าไหร่ เราจะบอกว่ามันง่ายมากเลย

ซึ่งคุณไปทำจมูกมา40,000บาทใช่ไหมเราก็จะต้องได้เงิน40,000บาทเท่ากับเงินที่เราเสียไปนั่นเองและนี่มันเป็นแนวคิดเบื้องหลังพื้นฐานของการลงทุนเลยเราอยากจะบอกว่าเราไม่ได้ดูที่จำนวนเงินเช่นเราลงทุนหมื่นนึงมันแพงเราลงทุนล้านนึงมันก็ยังแพงอยู่ลงทุนแค่10บาทพอมันถูก

แต่เราจะบอกว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่เราควรที่จะดูว่าการลงทุนนั้นให้ผลตอบแทนราเท่าไหร่บางคนจ่ายร้อยล้านยังบอกว่าแพงและถ้าจ่ายร้อยล้านและคุณได้ผลกำไรกลับคืนมาแปดร้อยล้านอันนี้มันก็ไม่ใช่การลงทุนที่แพงมันก็จะขึ้นอยู่กับว่ามูลค่าเงินต้นที่เราต้องลงทุนเท่าไหร่

เพราะฉะนั้นแล้วเราอยากให้คุณนั้นคิดเป็นเปอร์เต็นซ์เอาเงินลงทุนตั้งต้นของเราคิดว่าเป็น100%

และก็คิดดูว่าผลกำไรตอบแทนเรามากน้อยกี่%อย่างเราลงทุนไป100บาทเราจะได้กลับมา200บาทก็คือเราได้กลับคืนมา100บาทมันก็คือกำไรหนึ่งเท่าก็คือ100%เลย

นอกจากนี้เรายังมีฤทษฎีจุดคุ้มทุนมาฝากกันว่าเราคิดยังไงโดยที่เราแบบว่าไม่เอาเรื่องของมูลค่าเงินตามเวลาเพราะเงินแต่ละเวลามันไม่เท่ากันอย่างเช่นเงิน100บาทใน1ปีมันไม่เท่ากับปี2หรือในอีก10ปีข้างหน้าสมมติว่าเราตั้งราคาขายเอาแค่น้ำแก้วนึง15บาท

โดย15บานนี้มันคือPrice/Selling price ต้นทุนของเราคือ10บาทเขาเรียกว่าเป็นต้นทุนผันแปลก็๕อต้นทุนของเราจริงๆเลย

15ลบ10บาทเท่ากับ5บาทและ5บาทของเรามันคือกำไรข้างต้นทีนี่เราอยากให้แยกจริงๆแล้วเรามีFixed costต้นทุนคงที่หรือว่าเงินลงทุนเริ่มแรกของเราไปเท่าไรเช่นแบบค่าตั้งร้านค่าเดินทางค่าอะไรหลายอย่างเรามีกำไรต่อชิ้นตนทุนFixed costเราเป็นตัวตั้ง1,000บาทเราจะต้องขายให้ได้ถึง200แก้วมันถึงจะคืนทุน

ซึ่งมันก็เป็นคำตอบที่ว่าเราขายเท่าไหร่ถึงจะคืนทุนเราต้องขายกี่แก้วถึงจะเป็นกำไรเราอยากได้เป้าประมาณนี้ต่อเดือนคุณต้องคิดเลยว่าเราจะต้องขายเท่าไหร่เหมือนกับทำจมูกทำมา40,000บาทต้องได้ผลตอบแทนกลับมา40,000บาทแต่เราอยากให้มองว่า40,000บาทนั้นอาจจะเป้นเงินเดือน40,000บาทก็ได้

แต่อยากให้มองว่ามันมีต้นทุนอื่นๆอยู่อีกหรือเปล่าเช่นค่าใช้จ่ายอย่างอื่นต้องหักด้วยตรงนั้นคือต้นทุนผันแปรVariable cost กับ Fixed costที่เป็นต้นทุนในตอนแรก

 

สนับสนุนโดย.    gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20

เอสเอ็มอีถูกโจมตีจากไซเบอร์มีผลกระทบหนัก

ในช่วงโควิดที่ผ่านมาปัญหาที่พบของบรรดา SME ถูกโจมตีจากไซเบอร์ความเสียหายต้องบอกเลยหลายล้านบาททีเดียวแล้วตอนนี้ได้พูดถึงกันในระดับโลกก็เจอกันหนักมากหลายคนบอกมันเป็นเฉพาะเรื่องของบริษัทใหญ่มันไม่ใช่แล้วมีโอกาสโดนหมดเราต้องรีบป้องกัน

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเลยโดยเฉพาะภาคธุรกิจต่างๆ เนื่องจากว่ามันมีผลสำรวจในช่วงโควิด-19 ที่ผ่ามามันพึ่งจะเกิดโควิด-19 เมื่อปี 63 เองปรากฏว่าช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาเขาบอกว่า SME ไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์สูงขึ้นแล้วได้สร้างความเสียหายต้องบอกเลยว่าจำนวนเงินสูงมากพอสมควร

นอกจากนี้ทางผู้ประกอบการ smeซิโก้ประเทศไทยมีการเปิดเผยถึงผลเกี่ยวกับไซเบอร์ซีเคียวริตี้สำหรับ SME เขาบอกว่ามาดูตัวเลขกันเลย sme ของไทยร้อยละ 65% ถูกโจมตีทางไซเบอร์ในช่วง12 เดือนที่ผ่านมาและแบ่งเป็นการถูกโจมตีด้วย มัลแวร์ ร้อยละ 91% และถูกโจมตีด้วย ฟิชชิ่ง ร้อยละ 77% ก็ไม่หนีกันเท่าไหร่

โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19 ถ้าเราเห็นจริงๆแล้วมันมีความเสี่ยงอยู่อย่างหนึ่งก็คือหลายคนทำงานอยู่ที่บ้านคือปกติถ้าเป็นบริษัทใหญ่หน่อยเขาจะมีคอมพิวเตอร์ของบริษัทเลยแล้วมีระบบปกกันของบริษัทเขายังมีชั้นในการป้องกันแต่พอมาเป็นบริษัทขนาดกลางขนาดเล็กอาจจะไม่ได้ลงทุนตรงนี้มากมายนัก

พอเราเอาคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมาทำที่บ้านกดนั่นกดนี่ตรงนี้เป็นความเสี่ยงเลย การถูกโจมตีทางไซเบอร์เป็นเรื่องสำคัญในแวดวงธุรกิจแล้วก็ผู้ประกอบการไทยด้วยที่สำคัญเราจะต้องไปดูรูปแบบของผลกระทบที่เกิดขึ้นเขาบอกว่ามีตัวเลขsmeจำนวนร้อยละ 47% ถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้รับความเสียหายทางธุรกิจที่เขาคิดเป็นมูลค่าอยู่ที่5แสนเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นเงินบาทประมาณ 16 ล้านบาท

ซึ่งดูเหมือนตัวเลขจะไม่ได้เยอะอะไรมากมายแต่เมื่อเทียบกับรายได้ที่เจอกับวิกฤตโควิด-19 หายไปขนาดนี้หลายคนยกผ้าขาวได้เลยดังนั้นตรงนี้ถือว่าสำคัญ ในขณะเดียวกันร้อยละ 28 ได้รับความเสียหายไป 1 ล้านดอลลาร์คิดเป็นเงินบาทก็คือประมาร 33 ล้านบาท

ถ้าไปดูไส้ในบริษัทข้อมูลในความเสียหายรูปแบบมันเป็นอย่างไรร้อยละ 76 เป็นการสูญเสียข้อมูลของลูกค้าเราจะได้คิดได้ข่าวกันบ่อยถือเป็นประเด็นแรกๆที่เจอกันและจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้วย

ส่วนถัดมาร้อยละ 69 สูญเสียข้อมูลพนักงานและร้อยละ 65 เป็นการสูญเสียข้อมูลองค์กรแล้วก็ร้อยละ 57 สูญเสียข้อมูลการเงินร้อยละ 56 ปรากฎว่าทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักแล้วก็ร้อยละ 53 สูญเสียทรัพย์สินทางปัญญาและร้อยละ 49 เป็นการสูญเสียข้อมูลทางธุรกิจนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บไหนแตกดี