เหตุผลที่สำคัญที่คนจีนมาลงทุนในประเทศไทย 

       หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าทำไมชาวจีน จึงมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมากและไม่ได้มีการอาศัยเพื่อมาเที่ยวเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ชาวจีนมักจะมาลงทุนในประเทศไทย

ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเหตุผลที่สำคัญที่ทำให้ชาวจีนตัดสินใจมาในลงทุนประเทศไทยว่าอะไรที่เป็นเหตุจูงใจ ที่สำคัญที่ทำให้คนจีนนั้นอยากเดินทางมาลงทุนในประเทศไทยกัน 

 ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าสินค้าของจีนถูกนำมาวางขายในประเทศไทยเป็นจำนวนมากซึ่งแต่ก่อนนั้นจะเป็นการขายโดยคนไทยนั้นไปติดต่อนำสินค้าจากจีนเข้ามาขายแต่สำหรับในปัจจุบันนี้เป็นคนจีนนำมาขายในประเทศไทยเอง

โดยตรงสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้คนจีนตัดสินใจมาลงทุนในประเทศไทยนั่นก็เพราะว่าเงื่อนไขของการจดทะเบียนการเปิดบริษัทของชาวต่างชาตินั้นเอื้ออำนวยให้นักธุรกิจชาวต่างชาติมาทำธุรกิจกับประเทศไทยและจะได้ผลประโยชน์เป็นอย่างมาก 

   อย่างเช่นเงื่อนไขของการจดทะเบียนบริษัทของชาวต่างชาติที่ตามระบุของพรบประจำปีพ.ศ 2542

นั้นระบุว่าถ้าชาวต่างชาติอยากจะมาจดทะเบียนเปิดบริษัทในประเทศไทย สามารถดำเนินการได้โดยทุนจดทะเบียนใช้เป็นเงินทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 2 ล้านบาทก็สามารถทำการจดทะเบียนบริษัทได้แล้วและที่สำคัญชาวต่างชาติสามารถที่จะถือหุ้นในกิจการดังกล่าวได้ถึง 49% ในขณะที่คนไทยนั้นถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวได้ 51% 

ซึ่งหากมองอย่างนี้แล้วเหมือนคนไทยจะได้เปรียบแต่อันที่จริงแล้วชาวจีนมักจะมีการจ้างคนไทยมาทำการถือหุ้นแทนโดยอาจจะมีการว่าจ้างประชาชนธรรมดาทั่วไปใช้ชื่อประชาชนของคนไทยในการจดทะเบียนแบ่งหุ้นออกไปประมาณ 2-3 คน

ให้แต่ละคนนั้นถือหุ้นเพียงแค่ไม่เกิน 30% เท่านั้นเมื่อนำหุ้นของคนไทยแต่ละคนมารวมกันก็จะอยู่ที่ 51% ซึ่งคนไทยเหล่านี้นั้นไม่ใช่เจ้าของธุรกิจอย่างแท้จริงเป็นเพียงแค่คนจีนไปซื้อรายชื่อมาเท่านั้นหรือเรียกว่าคนจีนใช้เป็นตัวแทนหรือนอมินีนั่นเอง

 นอกจากการลงทุนในประเทศไทยจะไม่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะแล้วยังมีเงื่อนไขเกี่ยวกับภาษีต่างๆที่คนจีนจะได้รับยกเว้นในการนำสินค้าเข้ามาขายในประเทศไทยและรัฐบาลจีนเองก็สนับสนุนให้ประชาชนของตนเองนั้นมีการนำสินค้าออกไปขายต่างประเทศซึ่งมีการยกเว้นภาษีอีกด้วยดังนั้นคนจีนจึงนิยมนำสินค้าของตนเองมาขายที่ประเทศไทยพอได้รับผลประโยชน์มากมายและสร้างกำไรได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว

     นอกจากนี้สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือการนำสินค้าจากจีนเข้ามาขายในประเทศไทยนั้นใช้ระยะเวลาไม่นานเพราะมีการขนส่งทั้งทางอากาศและทางเรือซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับเจ้าของกิจการและเจ้าของธุรกิจนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นอุตสาหกรรมพืชจากLED ต้องการอะไรบ้าง

แม้ท่านใดคิดที่จะริเริ่มทำธุรกิจโรงงานผลิตพืชรวมทั้งอยากกระโจนไปสู่อุตสาหกรรมนี้ อาจจะพูดได้ว่า ประการแรกจะต้องมีส่วนประกอบทั้งยังสามอย่างที่กล่าวมา คือ Smart LED, พื้นความรู้การออกแบบระบบ IT, IoT รวมทั้งระบบ AI ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง และวิชาความรู้ด้านพืช หรือหากอยากได้วิถีทางลัดก็สามารถปรึกษาทาง Civic Media

เพื่อแพลนเกี่ยวกับระบบ Plant Factory ให้ แม้กระนั้นแม้จะทำเองทั้งปวง ถึงแม้ว่าจะมีส่วนประกอบครบทั้งยังสามอย่างแล้ว

ก็ยังจำต้องใช้เวลาขั้นต่ำ 6 เดือนสำหรับเพื่อการศึกษาค้นคว้า ปรับปรุง ศึกษารวมทั้งทดสอบ ซึ่งพวกเราได้ใช้เวลา 2-3 ปี กว่าจะมาถึงจุดนี้ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีปัญหาให้พวกเราจำต้องปรับปรุงแล้วก็ปรับปรุงอยู่เสมอเวลา

แอลอีดีฟาร์ม เริ่มจากความบากบั่นมองหาน่านน้ำสีฟ้าสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ เพื่อพัฒนาสิ่งที่มีอยู่เดิมจากธุรกิจไฟ แอลอีดี ปัจจุบันนี้พวกเรายังมีทั้งยังธุรกิจเดิมรวมทั้งธุรกิจโรงงานผลิตผัก แต่ว่ามั่นใจว่าในอนาคต แอลอีดีฟาร์ม จะมีประสิทธิภาพสำหรับในการเติบโตกระทั่งเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่ทำเงินเป็นอันดับหนึ่งของบริษัทได้ในอีกห้าปีด้านหน้านี้

Plant factory เป็นนวัตกรรมการปลูกพืชที่มีSystemแบบปิดหรือครึ่งหนึ่งปิด ซึ่งมีดีที่ควบคุมสิ่งแวดล้อมแล้วก็ต้นเหตุต่าง ๆ ให้สมควรต่อการเติบโตของพืชได้อย่างสมบูรณ์ ยกตัวอย่างเช่น ตอนคลื่นแสงสว่าง ความเข้มแสงสว่าง อุณหภูมิ ความชุ่มชื้น แร่ต่าง ๆ

รวมทั้งจำนวนคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมีแหล่งเกิดแสงสว่างที่ประยุกต์ใช้ชดเชยแสงแดดจากธรรมชาติเป็นแสงสว่างจากหลอดไฟฟ้า แอลอีดี ที่ให้ความร้อนน้อยกว่ารวมทั้งใช้ไฟฟ้าน้อยลงได้มากกว่า fluorescent ที่สำคัญเป็น สามารถเลือกสี ความยาวคลื่นแสงสว่าง ได้ตามสมควรของประเภทพืชแล้วก็ระยะการเติบโต ทำให้พืชที่ปลูกได้ผลผลิตสูงและก็ผลิตสารสำคัญได้ตามความจำเป็น

รูปแบบของการเริ่มต้นผลิตพืชราคาสูงอย่าง Plant Factory นี้ได้รับมาจากทางญี่ปุ่น ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เพื่อสำหรับในการผลิตผักกาดหอมในเชิงการค้า

โดยมี Prof. Toyoki Kozai ที่มหาวิทยาลัยชิบะ เป็นคนที่เริ่มจนได้รับการกล่าวเชิดชูให้เป็นบิดาที่โรงงานผลิตพืชของโลก และก็ได้เผยแพร่องค์วิชาความรู้นี้ผ่านผลงานเขียนและก็ร่วมเป็นผู้ให้คำแนะนำให้กับหน่วยงานต่าง ๆ อีกทั้งในประเทศและก็ต่างแดน รวมทั้งเมืองไทย อาทิเช่น โรงงานผลิตพืชในการปรับปรุงพิเศษขนาดใหญ่

ที่สวนวิทยาศาสตร์เมืองไทย ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ ศึกษาค้นคว้า แล้วก็ของใหม่ และก็ศูนย์ความร่วมแรงร่วมใจทางการศึกษาค้นคว้าแล้วก็ฝึกหัดด้านการปลูกพืชในตึก ของมหาวิทยาลัยมหิดล ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม การมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ แล้วไม่เริ่มต้นลงมือทำ ก็เหมือนกับปล่อยหนทางสู่ความสำเร็จหลุดมือไป หากเป็นเช่นนี้แล้วใครที่กำลังลังเลก็ขอให้ลงมือได้แล้ว และหากสนใจทำเกี่ยวกับเกษตรแนวใหม่ก็ขอให้ได้พบกับสิ่งที่ใช่

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

สหกรุ๊ปแฟร์  ครั้งที่ 26  ลดราคาสินค้า สู้วิกฤตของแพง 

         สหกรุ๊ปแฟร์  ครั้งที่ 26 เมื่อวันที่ 9 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565   ประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ได้ออกมาเปิดเผย 

ว่ากำลังจะมีการจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ครั้งที่ 26 ครึ่ง   เนื่องจากว่าในปัจจุบันนี้ คนไทยกำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ  รวมถึงปัญหาที่ประเทศไทยในขณะนี้มีสินค้าหลายรายการมีการปรับราคาแพงมากขึ้น  และยังจะมีสินค้าอีกมากมายหลายรายการที่กำลังทยอยปรับราคาเพิ่มด้วยเช่นเดียวกัน  

           ดังนั้นบริษัทในเครือสหพัฒน์ จึงได้ตัดสินใจที่จะมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ค่าครองชีพสูงขึ้น  โดยมีการเตรียมการจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งที่ 26  โดยมีการตั้ง Concept ในการจัดงานในครั้งนี้ว่าจะเป็นการช่วยปลดล็อคค่าครองชีพให้กับประชาชนคนไทย 

ซึ่งตาม Concept ของงานนั้นจะมีการนำสินค้ามาขายแบบสวนกระแสให้ประชาชนได้ทำการช้อปปิ้งกัน   สำหรับสินค้าที่จะนำมาขายนั้นจะมีการนำมาขายในราคาที่ไม่แพงนอกจากนี้ยังจะมีการนำโปรโมชั่นดีๆโปรโมชั่นพิเศษกว่าในปีก่อนก่อนที่ผ่าน เพื่อมานำมาเสนอให้กับประชาชนที่มาร่วมงานสหกรุ๊ปแฟร์ในครั้งนี้ด้วย  

      อย่างไรก็ตามสำหรับการจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์นั้นมีการจัดมาเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วแต่หลังจากที่มีการระบาดของไวรัสโควิต

นั้นทำให้ไม่สามารถจัดงานขายสินค้าในราคาถูกหรือสหกรุ๊ปแฟร์ได้จึงได้มีการว่างเว้นไปเป็นระยะเวลาถึง 2 ปี  ซึ่งทางด้านผู้บริหารของเครือสหพัฒน์เองก็เชื่อมั่นว่าประชาชนหลายคนที่เคยไปร่วมงานสหกรุ๊ปแฟร์ในปีก่อนที่ผ่านมานั้นน่าจะคิดถึงการจัดงานในครั้งนี้แล้วจึงเริ่มมีการตัดสินใจที่จะจัดงานครั้งที่ 26 ขึ้น

             สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีความ เชื่อมั่นว่าเมื่อมีการเปิดงานขึ้นประชาชนน่าจะเดินทางไปเลือกสินค้าและไปร่วมกิจกรรมที่ทางสหกรุ๊ปแฟร์ครั้งที่ 26 จัดขึ้น  คณะผู้จัดงานมีความเชื่อมั่นมากว่าการจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ในครั้งนี้นั้นจะต้องคึกคักเป็นพิเศษแน่นอน  เนื่องจากว่าคงไม่ได้ออกมาช้อปปิ้งกันนานแล้ว  

ดังนั้นบรรยากาศการช้อปปิ้งแบบเก่าๆก็จะกลับมาทำให้คนนั้นอย่ากลับมาสัมผัสสินค้าร่วมสนุกภายในงาน  ซึ่งทางผู้จัดงานสหกรุ๊ปแฟร์นั้นก็จะมีการจัดจำหน่ายสินค้าเป็นโซนต่างๆโดยจะนำสินค้ามาวางขายในราคาที่ไม่แพงเพื่อต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยเหลือเรื่องของปัญหาค่าครองชีพที่กำลังมีอยู่ในตอนนี้นั่นเอง 

         สำหรับรายละเอียดของงานนั้นจะจัดขึ้นที่ไบเทคบางนา Hall 98 -100 โดยงานจะเริ่มมีตั้งแต่วันที่ 30 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 ไปจนถึงวันที่ 3 เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2565 ซึ่งช่วงเวลาของการเปิดงานนั้นจะเปิดช่วงเวลาตั้งแต่ 10:00 น เป็นต้นไปจนถึง 20:00 น    สำหรับสินค้าที่ถูกนำมาวางขายในงานนั้นจะเป็นสินค้าจากบริษัทในเครือสหพัฒน์   นอกจากนี้ยังมีการนำสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นสินค้าแบรนด์ดังมาวางจำหน่ายด้วยเช่นเดียวกันรวมถึงจะมีสินค้าเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพและยังมีสินค้าอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย

 

สนับสนุนโดย    UFABET เว็บตรง

Korat Next Step ประกาศรับสมัครเด็กฝึกงาน  Big Mountain 

       ประกาศรับสมัครเด็กฝึกงาน  Big Mountain    เมื่อพูดถึงงานดนตรีที่ยิ่งใหญ่งานหนึ่งของประเทศไทยและมักจะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนั้น

เชื่อว่าบรรดาขาดนตรีทั้งหลายย่อมนึกถึงชื่องานมหกรรมดนตรี Big Mountain Music Festival อย่างแน่นอนเนื่องจากว่าเป็นงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นอย่างมากและมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเป็นเทศกาลดนตรีดีๆที่มีการจัดขึ้นแต่ละครั้งนั้นหลายวันติดต่อกันเป็นงานที่จัดอย่างยิ่งใหญ่มโหฬารและมักจะมีดราม่าเป็นประจำทุกปีและที่สำคัญงาน big mountain Music Festival นั้นมักจะจัดขึ้นที่เขาใหญ่เพียงเท่านั้น 

       อย่างไรก็ตามในปีพ.ศ 2555 นี้ได้มีการประกาศออกมาแล้วว่าที่เขาใหญ่จะมีการจัดงาน big mountain Music Festival ประจำ ปี พ.ศ. 2565 อีกครั้งหนึ่งซึ่งมีการประกาศผ่านทาง Facebook ของ  Korat Next Step โดยประกาศเกี่ยวกับการรับสมัครเด็กฝึกงานในตำแหน่งต่างๆที่จะไฟทำงานในงาน big mountain Music Festival โดยจะมีการเปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 31 เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2565  ซึ่งจะเป็นการทำงานระหว่างวันที่ 9-11 เดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2565 

        สำหรับรายละเอียดของการรับสมัครงานนั้นจะมีการกำหนดอายุของเด็กที่จะไปฝึกงาน big mountain ว่าจะเป็นอายุเพียงแค่ 18-25 ปีเท่านั้นแต่ถ้าหากใครสนใจแต่ถ้ามีอายุมากกว่า 18 ถึง 25 ปีก็สามารถกรอกใบสมัครได้ซึ่งจะมีการนำมาพิจารณาภายหลังอย่างไรก็ตามรายละเอียดของงานในการฝึกนั้นจะต้องมาทำงานทุกวันและจะมีการสัมภาษณ์งานในวันที่ 5-6 เดือนพฤศจิกายนปีพ.ศ 2555 นี้

โดยก่อนที่จะทำงานนั้นจะต้องมีการอบรมซึ่งจะมีการจัดฝึกอบรมให้ในวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายนพ.ศ 2555 เพื่อที่จะได้พร้อมเรียนรู้งานและสามารถทำงานในการเป็นเด็กฝึกของบิ๊กเมาเท่นได้ 

            สำหรับตำแหน่งที่มีการเปิดรับนั้นมีตั้งแต่ตำแหน่งพิธีกรนอกจากนี้ยังมีตำแหน่งผู้ช่วยประสานงานและสวัสดิการรวมถึงตำแหน่งประชาสัมพันธ์และทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวนอกจากนี้ยังมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยประสานงานสปอนเซอร์รวมถึงผู้ช่วยประสานงานศิลปินต่างประเทศโดยจะต้องมีความเข้าใจด้านภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นรวมถึงภาษาเวียดนามและภาษากัมพูชาอีกด้วย

       อย่างไรก็ตามรายละเอียดของการฝึกงานที่ Big Mountain นี้ไม่ได้    ufabet เว็บตรง   มีการระบุเอาไว้ว่าจะมีค่าตอบแทนในการฝึกงานหรือไม่ซึ่งหลังจากที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็มีคนเกิดความสงสัยซึ่งก็มีเด็กที่เคยฝึกงานบางคนออกมาชี้แจงว่าการฝึกงานที่บิ๊กเมาเท่นเป็นการหาประสบการณ์ฟรีและไม่มีเงินเดือนให้แต่บางคนที่เคยฝึกงานก็ได้เงินค่าตอบแทนวันละ 500 บาทก็มี 

       อย่างไรก็ตาม Facebook ของ Big Mountain Music Festival ยังไม่ยืนยันเกี่ยวกับเรื่องของค่าฝึกงานในครั้งนี้ซึ่งระบุแต่เพียงว่าให้รอติดตามต่อไปเท่านั้น 

แนวโน้มเศรษฐกิจของไทยปี 2565 

             เมื่อประมาณช่วงปลายเดือนมิถุนายนปีพ.ศ. 2565 ได้มีการเปิดสัมมนาอภิปรายในชื่อ  โอกาสใหม่  Stronger Thailand  ซึ่งในการสัมมนาในครั้งนี้นั้นเป็นการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจของประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2565 โดยมีการระบุว่าการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีนี้นั้นจะสามารถขยายตัวได้ถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่จะมีการขยายตัวที่ต่ำกว่า 2.5 เปอร์เซ็นต์นอกจากนี้มีการคาดการณ์ว่าค่าการที่สามารถการันตีเกี่ยวกับเรื่องของการขยายตัวเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง 

           สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางด้านเศรษฐกิจนั้นมาจากเลขาธิการสภาพัฒน์ซึ่งได้มีการขึ้นไปอธิบายโดยมีการระบุว่าข้อมูลที่ได้นำมาอธิบายในโครงการนี้นั้นได้มีการปรึกษาหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยและทางด้านกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบร้อยแล้วและไม่ใช่มีการปรึกษากันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

แต่มีการแสดงความคิดเห็นหรือมีการพูดคุยกันมาแล้วหลายครั้งและในการคิดเห็นนั้นก็มีความคิดเห็นที่ค่อนข้างตรงกันโดยมองว่ามีความเป็นไปได้ในการเติบโตของเศรษฐกิจของไทยประจำปีพ.ศ. 2565  น่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3 นั่นเอง 

            สำหรับสาเหตุที่ทำให้มีการวิเคราะห์กันว่าเศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้นมีการเติบโตถึงแม้ว่าจะไม่ได้เยอะมากนานก็เพราะว่าในขณะนี้ถ้าจะสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีแนวโน้มการส่งออกที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องของการส่งออกอาหารเนื่องจากว่าในต่างประเทศนั้นบางประเทศกำลังมีปัญหาเรื่องของการขาดแคลนอาหารนั่นเองและประเทศไทยเองก็เป็นประเทศที่มีการผลิตอาหารเป็นหลักอยู่แล้ว  

         นอกจากเรื่องการส่งออกแล้วประเทศไทยกำลังได้รับผลตอบรับที่ดีเกี่ยวกับเรื่องของโครงการการท่องเที่ยวหลังจากที่รัฐบาลได้มีการประกาศผ่อนคลาย  เกี่ยวกับเรื่องของการกัดตัวการฉีดวัคซีนต่างๆ ซึ่งถ้าหาตัวสถิตินักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยจะเห็นได้ว่าในช่วงระยะเวลา 5 เดือนก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากกว่า สองล้าน คนแล้ว   และหลังจากที่ทางรัฐบาลได้มีการประกาศเกี่ยวกับเรื่องของการผ่อนคลายนโยบายต่างๆเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะมีการเพิ่มเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นซึ่งการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยใน ปีพ.ศ. 2565 นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 7 ถึง 10 ล้านคนเลยทีเดียว 

           อย่างไรก็ตามทางด้านเลขาธิการสภาพัฒน์ก็ยังมีความเป็นห่วงว่าการคาดการณ์นั้นอาจจะยังไม่ค่อนข้างแน่นอนสักเท่าไหร่นัดจากว่ามีภาวะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนเกิดขึ้นซึ่งการเกิดสงครามนี้เองที่มันทำให้มีผลต่อทางด้านเศรษฐกิจโลกและส่งผลมายังเศรษฐกิจของไทยและยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสงครามนี้จะจบลงเมื่อไหร่ซึ่งถ้าหากสงครามตกลงเศรษฐกิจก็จะดีขึ้นแต่ถ้าหากสงครามยังคงดำเนินต่อไปเศรษฐกิจอาจจะเลวร้ายมากกว่าที่มีการคาดการณ์

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง